ครูอีคุตบะห์ซัด กลุ่มโจมตีศูนย์กลางฯ พฤติกรรมแบบกาเฟร –เผยสุดถ่อยคุกคามถึงครอบครัวกรรมการมูลนิธิฯ

ครูอีคุตบะห์ซัด กลุ่มโจมตีศูนย์กลางฯ พฤติกรรมแบบกาเฟร –เผยสุดถ่อยคุกคามถึงครอบครัวกรรมการมูลนิธิฯ

“ศูนย์กลางฯมีขั้นตอนในการดำเนินการ หากไม่ถูกพอใจอะไร ควรจะบอกกล่าวกัน การไปโจมตีผ่านโซเชียลเป็นพฤติกรรมเหมือนกาเฟร มุสลิมไม่ทำแบบนี้ มีการโจมตีศูนย์กลางฯ พูดกันว่า ดร.โง่บ้าง โต๊ะครูโง่บ้าง โต๊ะครูไม่โง่หรอก” อ.ชาฟีอี นภากร อิหม่ามประจำมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการอ่านคุตบะห์วันศุกร์ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย

คุบะห์อ.ชาฟีอี มีขึ้นหลังเกิดกระแสต่อต้านกลุ่มชีอะห์จัดงานละศีลอดและรำลึกถึงอิหม่ามโคมัยนี ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามฯ จนต้องย้ายการจัดงานไปยังโรงแรมอัลมิรอช วันที่ 4 มิถุนายน

อ.ชาฟีอี คุตบะห์ ด้วยว่า ในเดือนรอมฎอน เราจะต้องตักวา (ยำเกรง)ต่ออัลเลาะฮ์ด้วยการปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด สิ่งที่ทำไม่ดีให้ตอบัรตัว ไม่นินทาว่าร้ายบุคคลอื่น เพราะการนินทาว่าร้ายคนอื่น แม้จะเตาบัรต่ออัลเลาะฮ์ความผิดก็ไม่หมดไป จะต้องไปขออภัยกับคนที่เรานินทาว่าร้ายอย่างใสสะอาด

“ศาลเพิ่งตัดสินคดีปาไข่ ที่มีคนขว้างระหว่างคุตบะห์ ศาลบอกว่า จำเลยกลับคำให้การ และโจทก์ให้อภัย หมายความว่า แต่เดิมปฏิบัติแต่มารับสารภาพภายหลัง เป็นมุสลิมโกหกได้อย่างไร ศาลวินิจฉัยแบบนั้น เพื่อให้เห็นว่า ตัดสินแบบนั้นเพราะอะไร นี่ขณะศาลมีความละเอียด หากเป็นวันอาคีเราะห์คงละเอียดมากกว่านี้ ที่พูดไม่ได้สะใจ แต่เป็นความเจ็บปวดที่เราเป็นมุสลิม แต่ให้คนอื่นมาบอกเราแบบนั้นว่า เราโกหก แล้วมากลับคำให้การ” อ.ชาฟีอี กล่าวในคุตบะห์

มีรายงานว่า การที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ รับจัดงานเนื่องจากมีกำหนด เรื่องความเป็นเอกภาพของมุสลิม แต่มาปรากฏภายหลังว่า มีประเด็นอิหม่ามโคมัยนีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และมีการพูดคุยกันก่อนเป็นข่าวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยให้ย้ายสถานที่จัดงาน แต่มาเป็นข่าวเสียก่อน

รายงานระบุด้วย การต่อต้านของบางกลุ่มไม่ให้ชีอะห์จัดงานที่ศูนย์กลางฯ ไม่เพียงการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกโซเชียล แต่ยังมีพฤติกรรมสุดป่าเถื่อนโทรศัพท์ไปยังลูกเมียกรรมการมูลนิธิฯบางคนข่มขู่คุกคาม รวมทั้ง มีการปลุกระดมผ่านโซเชียลให้คนมาต่อต้านในวันจัดงาน เป็นความรุนแรงที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมมุสลิม ที่เกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน