อบจ.สงขลา เดินหน้าส่งเสริมเกษตรกร พลิกนาเป็นสวนมะพร้าวน้ำหอม ของดีของจังหวัด

“นายกฯไพเจน” พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตำบลบ่อแดง รับฟังปัญหาเกษตรกรชาวสาวมะพร้าวน้ำหอม พร้อมนำคอลัมนิสต์ชื่อดัง “นายหัวไทร” ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกร กระตุ้นเศรษฐกิจการทำเกษตรในคาบสมุทรสทิงพระ ซดน้ำมะพร้าว ที่ยืนยันหวาน หอม อร่อย

นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายปรีชัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษานายกฯอบจ.สงขลา นายธัชธาวินทร์ สะรุโณ ผู้เชี่่ยวชาญด้านการเกษตร อบจ.สงขลา นายเฉลียว คงตุก อดีต บก. หนังสือพิมพ์คมชัดลึกและเนชั่นทีวี เจ้าของนามปากกา “นายหัวไทร“และทีมงานพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองเกษตร อบจ.สงขลา ลงพื้นที่หมู่ 5 ตำบลบ่อแดง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลาเยี่ยมพบปะกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวน้ำหอมตำบลบ่อแดง รวมถึงมารับทราบปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องในการปลูกมะพร้าวน้ำหอม ในอันที่จะร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และร่วมกันแก้ไข โดยมี เกษตรอำเภอสทิงพระ ประธานอาสาสมัครเกษตรอบจ.สงขลา อำเภอสทิงพระ และประธานกลุ่มเกษตรกรอำเภอสทิงพระ ร่วมในเวทีแลกเปลี่ยนให้ความรู้แก่กลุ่มเกษตรกรสวนมะพร้าวน้ำหอมเป็นเบื้องต้น พร้อมทั้งรับฟังปัญหาของเกษตรกรที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมในพื้นที่ตำบลบ่อแดง ณ ศาลาตำหยอย ม.5 ตำบลบ่อแดง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา

นายไพเจน กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีนโยบายที่จะสนับสนุนเกษตรกรปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทนการทำนา เพราะมะพร้าวน้ำหอมนับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่จะทำรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่นา ซึ่งปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยมทำนาจนเกิดเป็นนาร้าง เนื่องจากน้ำไม่ค่อยสมบูรณ์ ดังนั้นทาง อบจ.สงขลาจึงมีแนวคิดที่จะทำโครงการนี้โดยพลิกหน้าร้างให้เป็นพื้นที่ส่วนเกษตรปลูกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ของมะพร้าวน้ำหอมจะมีราคาไม่สู้ดีนัก เนื่องจากหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องการส่งออก เนื่องจากชาวสวนจะกับกลุ่มผู้ซื้อสินค้าที่เสนอราคาให้ลูกละ 3 บาท 5 บาท 6 บาทบ้าง แต่พอนำไปขายข้างนอกบางแห่งตกลูกละ 50 บาทดังนั้นจึงมีความคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยกระตุ้นเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว

ในวันนี้จึงได้นำนายหัวไทร นักเขียนคอลัมนิสต์ และทีมงานพาลงมาในพื้นที่ เพื่อพบปะกับพี่น้องเกษตรกรสวนมะพร้าวอำเภอสทิงพระ เพื่อที่จะได้รับทราบถึงปัญหาและผลผลิต เกี่ยวกับการทำมะพร้าวน้ำหอมรวมถึงด้านการตลาด เพื่อนำไปเขียนเป็นข่าวในคอลัมนิสต์ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เกี่ยวกับในเรื่องของเกษตรในคาบสมุทรสทิงพระ ทั้งเรื่องผลผลิตต่อเดือน ซึ่งนายหัวไทรและทีมงานก็จะเอาข้อมูลต่างๆ นำไปประชาสัมพันธ์ และประเทศไทยก็จะได้รู้ว่า เป้าหมายสำคัญ มหานครแห่งมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งต่อไปใครที่กินมะพร้าวน้ำหอมต้องนึกถึงสงขลา ปัจจุบันการผลิตคุณภาพอาจยังไม่ดีพอ ซึ่งสินค้ามะพร้าวที่เป็นมาตราฐานทั่วไปที่ลูกค้าต้องการคือหนึ่งลูกอยู่ที่ประมาณ 1.2 กิโลหรือกิโลครึ่งขึ้นไปจึงเป็นที่ต้องการของตลาด ดังนั้นเราจึงต้องส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรในการผลิตที่ได้คุณภาพ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงรสชาดที่จะต้องให้ทางกรมวิชาการลงมาดูแลในเรื่องของคุณภาพปุ๋ย ว่าแต่ละแปลงยังขาดสารอาหารอะไรบ้าง เพื่อที่จะให้ผลผลิตมีรสชาด นี่คือเรื่องของการผลิต

“ส่วนในเรื่องของการตลาด เราก็พยายามหาตลาด ทั้งตลาดท้องถิ่น ตลาดในเมือง ตลาดต่างประเทศ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำอาทิ ตรัง กระบี่เกาะสมุย ภูเก็ต และแถวอันดามัน ซึ่งปัญหาราคาขายหน้าสวนจึงเป็นปัญหาในเรื่องของราคา ซึ่งต้องนำมาแก้ไขโดยออกจากสวนอาจลูกละ 8 บาทหรือ 10 บาท ซึ่งเจ้าของสวนไม่สามารถกำหนดราคาเองได้จึงเป็นปัญหาของชาวสวนที่ต้องนำมาแก้ไข’นายไพเจน กล่าว

ดังนั้น อบจ.สงขลาจึงร่วมกับภาคีเครือข่ายได้จัดทำโครงการส่งเสริมมะพร้าวน้ำหอม โดยการฝึกอบรมให้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมได้มีความรู้ในเรื่องการยกระดับประสิทธิภาพ การผลิต เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพผลผลิตสูงขึ้น การพัฒนาสายพันธุ์ดี ตลอดจนมีการเชื่อมโยงการผลิตกับการตลาด สร้างเวทีให้เกิดเครือข่ายของเกษตรกรและภาคีเครือข่ายมะพร้าวน้ำหอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จวงเสวนา นายกฯไพเจน พร้อมคณะได้ลองชอมมะพร้าวน้ำหอม และกล่าวยืนยันว่า มะพร้าวน้ำหอมสทิงพระ หวาน หอม อร่อยชื่นใจ จากนั้นได้เดินทางเข้าไปยังสวนมะพร้าวน้ำหอมตัวอย่างด้วย