ทีมทนายนพ พบเพื่อนร่วมอาชีพสมุทรปราการ พร้อมแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ในตำแหน่งที่อาสาเข้ามา เพื่อศักดิ์ศรีทนายความ
เมื่อตอนเทึ่ยงวันที่ 10 ตุลาคม 2567#ทนายนพ -ดร.ธนพล คงเจี้ยง นายกสมาคมนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และว่าที่ผู้สมัครนายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมป์ ได้เดินทางไปพบปะกับทนายความจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดข้างเคียงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการโดยมีเพื่อนทนายร่วมอาชีพเข้าร่วมปรึกษาหารือไม่น้อยกว่า 60 คน โดยมี ดร.คำนวณ ชโลปถัมภ์ อดีตนายกสภาทนายความคนแรกเข้าร่วมด้วย และให้การสนับสนุนทนายนะลงสมัครเป็นนายกสภาทนายความ
ผู้สื่อข่าวรายว่า บนเวทีมีการพูดถึงการเลือกตั้งนายกสภาทนายความคนต่อไปที่จะมีขึ้นในปลายปี 2568 ซึ่งกรรมการบริหารชุดปัจจุบันจะหมดวาระลง ซึ่งทนายนพแจ้งต่อเพื่อนทนายความว่า ประสงค์อาสารับใช้เพื่อนทนายความด้วยการลงสมัครเป็นนายกสภาทนายความ
ทนายนพ กล่าวว่า ส่วนตัวทำงานในสภาทนายความฯ เป็นอนุกรรมการมาหลายปี แต่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการฯ ได้มีนายกสภาทนาย 2-3 คน ได้เชิญชวนให้ตนลงสมัครนายกสภาทนายความฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบริหารสภาทนายความฯ เห็นว่า ตนมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ตรงนี้
‘จากการเดินสายพบปะเพื่อนทนายความทั่วประเทศในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นนายกสภาทนายความฯ เป็นภาระที่ใหญ่มาก แต่เมื่อรับปากผู้ใหญ่แล้วก็จะทำให้เต็มที่ ให้ทนายความมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เท่ากับอาชีพนักกฎหมายอื่นๆ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จึงได้เดินออกสายพบปะกับพี่น้องทนายความทั้ง 77 จังหวัด สิ่งหนึ่งที่เห็นคือความยากลำบากของพี่น้องทนายความ หลายคนไม่มีงาน เมื่อเจ็บป่วยก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาลเอกชน ต้องซื้อยาพารามากิน เป็นสิ่งที่ต้องหาทางช่วยเหลือ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า บ้านจะถูกยึด รถจะถูกยึด’ ดร.ธนพล กล่าว
ว่าที่ผู้สมัครนายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า สภาทนายฯเป็นหนี้อยู่ 240 ล้าน ที่มาจากการก่อสร้าง แต่มีรายได้จากค่าธรรมเนียมการสมัครสอบใบอนุญาตทนายความ 120 ล้าน เงินช่วยเหลือประชาชนจากรัฐบาลอีก 30 ล้าน ไม่รู้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะจ่ายหนึ้ได้หมด แต่ตนมีหนทางถ้าได้เป็นนายกสภาทนายฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการพบปะกันของทนายความสมุทรปราการเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น สามัคคี