หนีคดี 19 ปี ซุกเกาะสมุย ไม่ติดต่อราชการ-งานศพพ่อไม่ไป สุดท้ายไม่รอด

ตำรวจกองปราบลงเรือเฟอรี่ไปจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าบนเกาะสมุยหลังหนีคดีมา 19 ปี เหลืออายุความอีกแค่ปีเดียวก็จะเป็นอิสระ เจ้าตัวงานศพพ่อก็ไม่กล้ากลับกลัวถูกจับเพราะคดีเหลือแค่ปีเดียวเท่านั้นทนเก็บตัวเงียบมาตลอดไม่ติดตามทางราชการ ถูกรถชนก็ไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ช่วงโควิดก็ไม่ฉีดยากลัวตำรวจรู้ว่าอยู่ที่ไหน
.
8 ต.ค.67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ6 ลงเรือเฟอรี่ข้ามทะเลเพื่อจับกุม นายรัฏฐกร พรหมห้อง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.515/2548 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2548
.
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
.
ซึ่งหลบหนีการจับกุมมา 19 ปีเต็ม และเหลืออายุความเหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะเป็นอิสระ เจ้าหน้าที่พยายามสืบสวนหาเบาะแสจนทราบว่านายรัฏฐกรฯ หลบหนีและมาทำงานอยู่บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
.
จึงลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลมาติดตามจับกุมจนพบตัวและจับกุมได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งบนเกาะสมุย ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ขณะกำลังออกไปทำงานในตอนเช้า พร้อมกับแสดงหมายจับให้ดูแต่ นายรัฏฐกรฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งสภ.เมืองพัทลุง พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดี
.
คดีนี้ย้อนหลังไปเมื่อประมาณปลายปี2548 นายรัฏฐกรฯ พรหมห้อง พร้อมพวก ได้ไปเที่ยวสถาน
บันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดพัทลุง จนเกิดมีปากเสียงกับคู่กรณีในร้าน หลังจากร้านปิด นายรัฏฐกรฯพร้อมพวก ได้ขับรถยนต์เก๋งตามหาคู่กรณีที่มีปากเสียงกันในร้าน จนมาถึงบริเวณหน้าสวนสาธารณะกาญจนาภิเษก ถนนราเมศวร์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง
.
ได้สังเกตเห็นคู่กรณี ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว นายรัฏฐกรฯ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่กรณีจนเสียชีวิตหลังก่อเหตุ นายรัฏฐกรฯ กับพวกจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี
.
หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนของนายรัฏฐกรฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ ส่วนนายรัฏฐกรฯ ยังคงหลบหนีคดี และได้ย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ เพื่อหลบหนีการจับกุมจนเวลาผ่านไปเกือบ 19 ปี เหลืออายุความอีกแค่ปีเดียวก็จะเป็นอิสระแต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
.
อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุมตัว นายรัฏฐกร มาสอบสวนเจ้าตัวไม่ขอให้การใดๆในชั้นสืบสวน แต่ยอมรับว่าเมื่อรู้ว่าถูกออกหมายจับก็หลบหนีการจับกุมมาตลอด และคิดว่าหนีมาอยู่ที่เกาะสมุยซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลตำรวจคงตามไม่พบ
.
และตลอด 19 ปี ที่ผ่านมาเลี่ยงการแสดงตัวทุกอย่าง ไม่ทำธุรกรรมใดๆกับทางราชการ บัตรประชาชนหมดอายุก็ไม่กล้าไปต่อ แม้แต่ถูกรถชนบาดเจ็บก็ไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ช่วงโควิดก็ไม่ไปฉีดวัคซีน หรือแม้แต่วันเผาศพพ่อก็ที่บ้านเกิดที่จ.พัทลุง ก็ไม่กล้ากลับไปร่วมงานเพราะทราบว่ามีตำรวจไปเฝ้าอยู่ด้วย คิดว่าอดทนอีกนิดเหลือแค่ปีเดียวคดีก็จะหมดอายุความแล้วแต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจตามมาจับกุมได้ถึงเกาะสมุย