จับตา 4 แคนดิเดต รัฐมนตรี ลุ้นระทึก “ธรรมนัส-ชาดา-สันติ-เอกณัฐ” ถูกส่งรายชื่อให้ ตรวจสอบคุณสมบัติ และ จริยธรรม จะสามารถฝ่าด่านเข้าร่วม ครม. “อุ๊งอิ๊ง1” ได้หรือไม่
ยังคงเป็นประเด็นที่จะต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ซึ่งจะเห็นว่าครั้งนี้ มีการให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีอย่างมาก โดยมีการบวนสแกนคุณสมบัติที่เข้ม ทั้งรายชื่อรัฐมนตรีเก่า และรัฐมนตรีใหม่ ที่จะต้องส่งไปตรวจสอบคุณสมบัติกันใหม่ทั้งหมด โดยพรรคเพื่อไทยเองมีการส่งสัญญาณซ้ำไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเน้นย้ำให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรี ต้องเป็นคนที่ไร้มลทิน ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
งานนี้ก็ทำเอาบรรดาแคนดิเดตรัฐมนตรีหลายราย ที่มีคดีความและข้อครหาในอดีต ถูกเพ่งเล็งว่าจะผ่านด่านตรวจสอบคุณสมบัติ และได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งใน 35 รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่
เริ่มจากในกลุ่มของรัฐมนตรีเดิม อย่าง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า จะได้ควบตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย แต่จากโผล่าสุด ที่ว่าจะหลุด เพราะเคยมีคดีการครอบครองสารเสพติด อ้างว่าเป็นเฮโรอีน น้ำหนัก 3.2 กิโลกรัม แต่ด้วยความที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 ซึ่งยก “หลักอธิปไตย” ของประเทศมาเป็นหลักในเหตุผลข้อหนึ่ง ว่า การต้องคำพิพากษาของศาลในต่างประเทศ ไม่ใช่ศาลไทย จึงไม่ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี และ สส.
ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีจ้างวานฆ่า โดยศาลชั้นต้น สั่งตัดสินให้จำคุก แต่สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง จึงต้องพิจารณารายละเอียดและข้อกฎหมายว่า เมื่อศาลยกคำร้องแล้ว จะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เคยถูกลบชื่อออกจากนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี 2542 เหตุให้ผู้อื่นปลอมบัตรนักศึกษา-ใบขับขี่ เพื่อทุจริตการสอบวิชาปรัชญาเบื้องต้น
ส่วนอีกคนที่มีชื่อว่า จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเคยมีคำพิพากษาชั้นต้นจำคุก 1 ปี โดยรอลงอาญา ก่อนจะพิพากษากลับยกฟ้อง จากคดีเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. ชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือน พ.ย. 2556 – 1 พ.ค. 2557
ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าทั้ง 4 คนจะมีใครที่ต้องพลาดตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ จากปมปัญหาเรื่องคุณสมบัติและจริยธรรมหรือไม่