สภาฯ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 “อุ๊งอิ๊งค์- แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับเสียงท่วมท้น 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 งด 27 ฝ่ายค้านมีงูเห่า 6 เสียงจากไทยสร้างไทย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจนัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดเฉพาะตัว จึงทำให้ตำแหน่งนายกฯว่างลง
โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ โดยมีผู้รับรองด้วยการกดบัตรแสดงตน จำนวน 291 คน ถือว่าครบเกิน 50 คน โดยไม่มีผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่ง ทำให้มีเพียง น.ส.แพทองธาร เพียงคนเดียว
นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า จากนั้นเป็นขั้นตอนการลงคะแนนเนื่องจากมีบุคคลเสนอชื่อเป็นนายกฯเพียงคนเดียว แต่จะต้องมีการลงมติจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของสส.ที่มีอยู่ 493 คน คือ ต้องมากกว่า 248 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการโหวตลงมติให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่ขานการลงมติ ซึ่งไม่ทราบว่าเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มาลงคะแนนเสียง
นอกจากนี้ยังปรากฎว่า 6 สส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ลงคะแนนโหวตเห็นชอบ น.ส.แพทองธาร ทั้ง 6 คน ได้แก่ นายชัชชาล แพทยาไทยนางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี
ทั้งนี้ เมื่อครบ 493 คนแล้ว ผลปรากฎว่า มีเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 งดออกเสียง 27 ซึ่งถือว่าเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งคือ 248 เสียง ส่งผลให้ น.ส.แพทองธาร ได้รับเลือกเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 31.