ชาวปันหยีขอชี้แจง ดราม่า พี่จอง-คัลแลน จ่ายแพงทั้งเที่ยว กิน ของที่ระลึก
กรณีเกิดดราม่าบนโลกออนไลน์ หลังจากคลิปรายการท่องเที่ยว ช่อง Cullen Hateberry ตอนล่าสุด กระบี่ EP2 ที่พี่จองและคัลแลน ไปเที่ยวที่เกาะปันหยี เผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า พี่จอง และคัลแลน สองหนุ่มถูกเอาเปรียบ ทั้งเรื่องค่าเดินทางที่แพง ของฝากที่ราคาสูง รวมทั้งของกิน โดย ค่าเรืออยู่ที่ 1,000 บาท , ขณะที่ของฝากที่ซื้อ เป็นหอยมุก 500 บาท กับสร้อยข้อมือ 300 บาท รวมเป็น 800 บาท แต่เมื่อพี่จอง ขอให้ป้าที่ขายช่วยลดราคาให้ ป้ากลับบอกว่า แถมสร้อยให้อีกเส้น รวมเป็น 1,000 บาท ทำให้มีชาวเน็ตมองว่า สองหนุ่มถูกเอาเปรียบ และมีหลายรายที่ออกมายกตัวอย่างว่า เคยไปที่เกาะปันหยี แล้วไม่ประทับใจเพราะถูกเอาเปรียบหลายๆเรื่อง
ล่าสุด มีรายงานว่า นางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด ได้ออกมาชี้แจงเรื่องอาหารแพงว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟ่ต์หรือเมนูตามสั่ง ส่วนปลานั้น ที่แพงอาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็นๆ ที่มีราคาสูงในกระชัง นำขึ้นมาปรุงก็ได้ และยืนยันว่าทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า ส่วนร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือ แต่ละร้านก็ตั้งราคากันเอง และมีอยู่หลายร้าน ซึ่งผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถต่อรองราคากันตามพอใจ
พร้อมกันนี้ นางยาวาเราะห์ ขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดการแชร์การคอมเมนต์ที่สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยว จะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง
ขณะที่นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้นำในพื้นที่ หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของค่าเรือ 1,000 บาทนั้น พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนเองใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท จึงเป็นราคาปกติ
ส่วนในเรื่องของของฝากจากหอยมุกนั้น สอบถามจากคนขายพบว่า คนซื้อเลือก 2 ชิ้น 800 บาท และอยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก1ชิ้น รวมราคา 1,100 บาท และลดเหลือ1,000 บาท โดยไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด
“เกาะปันหยีนั้นเรา มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวันจะมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคน ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา ในเรื่องของกินต่างๆ ราคาก็ไม่ต่างจากในเมือง เราไม่อยากจะแก้ตัวหรือแก้ต่างกับกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ถือเป็นบทเรียนที่พวกเราชาวเกาะปันหยีจะต้องทำอย่างไรต่อไป เราน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลค์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป”
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ ch3plus.com…