กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จับมือ EU และ UN เปิดตัวการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ และ อนุสัญญาอุ้มหาย
วันที่ 8 ก.ค.2567 ที่ ห้อง Conference Room 2 ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ UN ESCAP กรุงเทพมหานคร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดย กองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Office of the High Commissioner for Human Rights: OHCHR) และ สหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (European Union in Thailand) จัดงานเปิดตัวการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ “ประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาอุ้มหาย : หนทางสู่การขจัดการอุ้มหาย” โดยได้รับเกียรติจาก พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ ร่วมกับ เดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจําประเทศไทย ซินเทียร์ เวลิโก้ ผู้แทนระดับภูมิภาค สํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจําภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ บาร์บารา ล็อคบิห์เลอร์ คณะกรรมการประจําอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ โดยมี ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม คณะทูตานุทูต องค์กรภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์การระหว่างประเทศ ให้เกียรติเข้าร่วมงานฯทั้งนี้ภายในงานมีปาฐกถาพิเศษ โดย อังคณา นีละไพจิตร ญาติผู้ถูกบังคับให้สูญหาย และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หัวข้อ “อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ” โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ วิทิต มันตาภรณ์ ผู้รายงานพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา จากนั้นเป็นการเสวนา หัวข้อ “จากการให้สัตยาบันสู่การบังคับใช้ : หนทางต่อไปในการนําอนุสัญญาอุ้มหายไปสู่การปฏิบัติในประเทศไทย” โดยเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฯ โดยมี นรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อํานวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เป็นผู้ดําเนินรายการสำหรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (อนุสัญญาอุ้มหาย) ถือว่าเป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนฉบับหลัก ฉบับที่ 8 ที่ไทยเข้าเป็นภาคี จาก 9 ฉบับหลักขององค์การสหประชาชาติ โดยอนุสัญญาอุ้มหายมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 2567 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญของประเทศไทยในการป้องกัน และปราบปรามการอุ้มหายอย่างจริงจัง รวมถึงความพร้อมที่จะเยียวยาความเสียหายแก่ผู้เสียหายและครอบครัวอย่างครอบคลุม สืบหาผู้สูญหาย และนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป