เปิดรายชื่อ “บิ๊กเนม” พาเหรดเข้ารอบ “สว.รอบสุดท้าย” ชิงเก้าอี้ 200 ที่นั่ง

วันที่ 26 มิถุนายน 2567 เลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รอบสุดท้ายระดับประเทศ 200 คน อาจเป็นการเปลี่ยนแปลง “แลนด์สเคป” การเมืองใหม่ สิ้นสุดวาระ สว.ชุดปัจจุบัน ที่คัดเลือกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ยาวมา 5 ปี

กลุ่มอดีตข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และ นักการเมือง น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นกลุ่มที่จะได้เข้าสภาสูง 200 คน จากบรรดาผู้สมัครที่ผ่านระดับจังหวัดเข้ามา ประมาณ 3,000 คน สู่การเลือกระดับประเทศ

หากกลุ่มดังกล่าวนี้เข้าสู่อำนาจในสภาสูงได้ ก็จะเป็น 1 ในดุลอำนาจใหม่ ในฝ่ายนิติบัญญัติ

เปิดรายชื่อตัวเต็งนั่งเก้าอี้ สว.
อดีตนักการเมือง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีต สว. อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ, นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต สส.กาฬสินธุ์ พรรคไทยรักไทย, นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีต สส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน

นายพรเพิ่ม ทองศรี พี่ชายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต สส.ขอนแก่น พรรคไทยรักไทย, นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา อดีต สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน, นายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีต กกต., พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี อดีตประธานคณะอนุกรรมการ กกต. ชุดสอบสวนกรณีของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

อดีตผู้ว่าฯ เครือข่ายนักปกครอง
อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด อาทิ นายมงคล สุระสัจจะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ อธิบดีกรมการปกครอง เคยเป็นว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยุคที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น มท.1, นายภิญโญ ประกอบผล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตราด, นายวีระชัย นาคมาศ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายเรวัต ประสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง, นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง สมุทรสาคร, นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ภูเก็ต, นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

นักรัฐศาสตร์-เศรษฐศาสตร์ ราชบัณฑิต
สายการศึกษา-นักวิชาการ อาทิ นางฉันทนา หวันแก้ว อดีตรองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ศาสตราจารย์ ดร.พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ ราชบัณฑิต, นายกมล รอดคล้าย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นางนันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก, รศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อดีตทหาร ตำรวจ บิ๊กเนม พรึ่บ
อดีตทหาร ตำรวจ อาทิ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.อรรถวิทย์ สายสืบ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1, พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร อดีต ผกก.สน.บางเขน, พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช อดีต ผช.ผบ.ตร และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีต ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ท.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.อิทธิพล พิริยะภิญโญ อดีตรอง ผบช.น., พล.ต.อ.ชัยพร พานิชอัตรา อดีตจเรตำรวจ, พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร อดีต ผบก.บุรีรัมย์

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4, พล.อ.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก, พล.อ.อ.ธงชัย แฉล้มเขตร อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), พล.อ.นุชิต ศรีบุญส่ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.เพิ่มศักดิ์ รอบจังหวัด อดีตหัวหน้าสำนักงานรองเลขาธิการ กอ.รมน, พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา อดีตผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ กระทรวงกลาโหม, พล.อ.สัมพันธ์ ธัญญพืช อดีต ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

พล.อ.สุรใจ จิตต์แจ้ง อดีตที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก, พล.อ.สุรชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย, พล.อ.อำนาจ สมประสงค์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

เปิดวิธีเลือก สว. รอบตัดสินชี้ขาด
ทั้งนี้ ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ที่อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี แบ่งเป็น 2 รอบเช่นเดิม แต่วิธีการต่างไป

เลือกรอบแรก (เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน) ผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบระดับจังหวัดมาแข่งระดับประเทศ จะเลือกกันเองในกลุ่มได้ไม่เกิน 10 คน สามารถ “เลือกตัวเองได้” แต่จะลงคะแนนให้กับคนอื่นเกิน 1 คะแนนไม่ได้ จึงเท่ากับ 1 คนสามารถโหวตได้ 10 คะแนน

จากนั้นผู้ที่ได้รับเลือก 1-40 ของกลุ่มจะเข้าไปเลือกรอบที่ 2 ต่อไป แต่ถ้ากลุ่มไหนไม่ครบ 40 คน ก็ให้ถือตามจำนวนเท่าที่มี แต่จะน้อยกว่า 20 คนไม่ได้ โดยผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับประเทศจะจัดให้ผู้ที่ไม่ได้รับเลือก ซึ่งยังอยู่ ณ สถานที่เลือกนั้น เลือกกันเองใหม่จนกว่ากลุ่มนั้นจะมีจำนวนอย่างต่ำถึง 20 คน

เลือกรอบสอง (เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน) ผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบจะแบ่งออกเป็น 4 สาย โดยผู้สมัครสามารถลือก “ผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน” กลุ่มละไม่เกิน 5 คน แต่จะเลือกผู้สมัครในกลุ่มเดียวกัน หรือเลือกตัวเองไม่ได้

ดังนั้น ถ้าในแต่ละสายมี 5 กลุ่ม ผู้สมัครก็จะมีสิทธิโหวต 20 โหวต ผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม ถือเป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็น สว. สำหรับกลุ่มนั้น จะทำให้ได้ สว.ครบ 200 คน ส่วนผู้ที่ได้ลำดับที่ 11 ถึง 15 จะเป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้น !!