นายกรัฐมนตรี เมิน ‘หญิงหน่อย’ จี้ทำสัญญาไม่โละ “ปาร์ตี้ลิสต์ ” บอกอย่าสร้างประเด็น ยัน ไม่เดินเข้าป่า! บอกให้รอดูต่อไปเขี่ย พปชร. หรือไม่ ลั่นไม่ได้ขายชาติ แก้กม.ให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 75% เช่าที่ดินไทย 99 ปี
วันที่ 25 มิ.ย.2567 เวลา 11.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทย มีแนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โล๊ะทิ้งสส.บัญชีรายชื่อให้เป็น สส.เขตทั้งหมด 500 คน ตรงนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ว่า ได้พูดไปแล้ว ไม่เอาแล้ว หลายๆท่านและพรรคร่วมก็ออกมาพูดแล้ว เราไม่มีความตั้งใจตรงนั้น อย่าไปสร้างประเด็นทางการเมืองมาเลยดีกว่า ไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ออกมาบอกว่าถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็อยากให้นายกฯและเพื่อไทยออกมาทำสัญญาประชาคมว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าว นายกฯ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ได้พูดไปแล้ว บอกไปแล้ว บอกว่าไม่ได้ทำและไม่มีความตั้งใจตรงนี้
ขณะเดียวกันยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ได้มีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค หรือไม่ ว่า ไม่ได้พูดคุยแต่ได้พูดไปหลายเวทีแล้ว เรื่องที่มีข่าวความขัดแย้งกันในรัฐบาล ซึ่งก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนได้เดินคุยกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ สส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็ได้คุยเรื่องงานอย่างเดียว ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ตรงนี้ขอให้ดูกันต่อไปก็แล้วกัน
ต่อข้อถามว่าความขัดแย้งมักออกมาจากบ้านในป่า นายกฯจะถือโอกาสเดินเข้าบ้านป่าเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ผมไม่เคยทราบ ผมไม่เดินเข้าป่า ผมอยู่ในกรุงครับ แต่ผมไม่ได้หนีอะไร แต่ถ้าคำว่าเดินเข้าบ้าน หรือเดินป่าผมไม่เดิน ผมรักความสบาย ผมอยู่ในกรุงดีกว่า”
เมื่อถามว่าไม่ได้หมายความว่าให้เดินเข้าป่าไปไหน แต่หมายถึงการไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ครับ ถ้ามีโอกาสก็คงจะพบ แต่ผมก็ไม่เคยรู้จักท่าน หากเจอกันในงานต่างๆหรือท่านมาที่สภาเจอกันผมก็คงไปแสดงความเคารพท่าน และอย่างที่เคยบอกท่านเป็นอดีตรองนายกฯมานานและเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ไม่มีเหตุผลที่จะไปหลีกเลี่ยงหรือไม่ไปพบท่าน และพรรคของท่านก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมา”
ส่วนกรณีมีการแก้ไขกฎหมายให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ 75% จาก 49 % และเช่าที่ดินได้ 99 ปี ที่ก่อนหน้านี้มีการวิจารณ์ว่าเมื่อตอนพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก่อนหน้าว่าเป็นกฎหมายขายชาติ ว่า ตรงนี้ที่กระทรวงการคลัง เสนอให้ไปศึกษาคือเรื่องของการเช่าระยะยาวไม่ได้เป็นการขายที่ดิน จึงไม่เกี่ยวอะไรกับการขายชาติ