“อนุทิน ชาญวีรกูล” เปิดวันแรงงานแห่งชาติ ปี 67 รับ 10 ข้อเรียกร้องผู้ใช้แรงงาน ยันรัฐบาลส่งเสริมคุณภาพชีวิต ให้แรงงานมีสุขภาพดี มีรายได้ มีความมั่นคง ประกาศขึ้นค่าจ้าง 400 เท่ากันทั่วประเทศเป็นของขวัญ 1 ต.ค.นี้
วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2567 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวรายงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทวี ดียิ่ง ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2567 ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้นำแรงงาน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานหลายพันคน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โดยมี สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ ลานคนเมือง จากนั้นมีการตั้งริ้วขบวนเทิดพระเกียรติ ริ้วขบวนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงาน และเคลื่อนริ้วขบวนออกจากบริเวณแยก จปร.ถนนราชดำเนินนอก และเคลื่อนมายังลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครนายอนุทิน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรี ให้มาเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติในนามของรัฐบาล เพื่อเฉลิมฉลองความสำคัญของวันแรงงานแห่งชาติ ร่วมกับพี่น้องแรงงานทุกคน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตลอดมา ซึ่งท่านคงเห็นเหมือนที่ผมเห็น ว่าพวกเรากำลังอยู่ในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานและการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การเข้าสู่สังคมสูงวัย หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น จึงได้มีความพยายามดำเนินนโยบาย สร้างเสริมคุณภาพชีวิต ให้แรงงานทุกคนมีสุขภาพดี มีรายได้ มีความมั่นคง ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงแรงงาน ไม่ว่าจะเป็น การเร่งรัดการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท การเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ จัดหลักสูตร up skill เพื่อแรงงานไทยในยุคดิจิทัล โครงการฟรี Safety Service เพื่อแรงงานปลอดภัย การเร่งออกกฎกระทรวง ว่าด้วยการคุ้มครองคนทำงานบ้าน หรือการส่งเสริมการพัฒนาระบบรักษาพยาบาล SSO Healthy เพื่อความปลลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ในสถานที่ปฏิบัติงาน และการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง สำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง กระทรวงแรงงานยังได้ดำเนินการเพื่อยกระดับมาตรฐานสิทธิแรงงานไทย ด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานการให้สัตยาบันต่อ “อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ” หลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นฉบับที่ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว สิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม การปรึกษาหารือไตรภาคี และอนุสัญญาที่ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพ อนามัยในทำงาน โดยเฉพาะฉบับที่ 144 ที่เป็นเรื่องการปรึกษาหารือไตรภาคีนั้น จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบในเดือนพฤษภาคมนี้ และลงนามให้สัตยาบันได้เดือนมิถุนายน ณ นครเจนนีวา ต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับวันแรงงานแห่งชาติของเราในปีนี้ และแน่นอน ข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ท่านได้นำมาเสนอในวันนี้ รัฐบาลจะรับฟัง และให้ความสำคัญในการพิจารณาขับเคลื่อนต่อไป“ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ ผมและรัฐบาลขอให้แรงงานไทยทุกคน มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมเป็นพลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ก้าวหน้า และผมขอสนับสนุนทุกท่าน ในการช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนาร่วมกันต่อไป เพราะเราคือทีมเดียวกัน ในพันธกิจเพื่อยกระดับคุณภาพงานและคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย เพื่ออนาคตของประเทศชาติและประชาชน” นายอนุทิน กล่าวด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ วันนี้จึงเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้องแรงงานทุกท่าน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังสำคัญ ในการผลักดันและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศในทุกภาคส่วนให้เติบโต และขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้สภาองค์การลูกจ้างรวม 16 แห่ง สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ เห็นชอบให้นายทวี ดียิ่ง ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน เป็นประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2567โดยรัฐบาล ให้การสนับสนุนงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และอำนวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการ จัดงานฯ ในการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติเพื่อเป็นการตระหนักถึงความสำคัญ และขอบคุณพี่น้องแรงงานทุกท่าน สำหรับข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากพี่น้องแรงงาน โดยนำข้อเรียกร้องมาดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน มีการหารือ กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มเพื่อพัฒนางานในการให้บริการพี่น้องแรงงาน และได้ประสาน แจ้งให้คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติทราบถึงความคืบหน้าแล้ว เพราะตระหนักว่าทุกข้อเสนอแนะจะนำมาซึ่งการปรับปรุงการดำเนินการของกระทรวงแรงงาน อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับ พี่น้องแรงงาน และสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศสืบไป ซึ่งในการจัดงาน วันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติได้จัดทำข้อเรียกร้อง จำนวน 10 ข้อ นำเสนอปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และความต้องการ ของพี่น้องแรงงานเพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป
“กระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงพี่น้องแรงงานที่เป็นกำลังหลักในการสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตลอดมาโดย ดำเนินนโยบาย สร้างเสริมคุณภาพชีวิต ให้แรงงานทุกคน ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงแรงงาน อาทิ เร่งรัดการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท เท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งในเรื่องนี้เราได้ติดต่อกับผู้ประกอบการกับเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีมีส่วนสำคัญในทุกระดับเพื่อหารือว่าจะให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไร พัฒนาทักษะฝีมือด้านใดบ้าง ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งในระยะ 5 – 6 เดือนนี้ เราต้องศึกษาว่าสาขาใด เราต้องช่วยเขาอย่างไรบ้าง หากธุรกิจใดมีปัญหาก็ขอให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงาน เพื่อจะหารือมาตรการการช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการให้สัตยาบัน ต่ออนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัว และการเจรจาต่อรองร่วม ฉบับที่ 144 ว่าด้วยการปรึกษาหารือไตรภาคี และฉบับที่ 155 ว่าด้วย ความปลอดภัยและสุขภาพ อนามัยในทำงาน โดยเฉพาะฉบับที่ 144 นั้น จะเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบในเดือนพฤษภาคม 2567 และลงนามให้สัตยาบันได้เดือนมิถุนายน 2567 ณ นครเจนนีวา ต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว