ปชป. ยันทำให้ดีที่สุด ศึกซักฟอก ม.152 “รัฐบาลเศรษฐา” กาง 3 โจทย์ล็อกเป้าถล่ม “นโยบายประกาศแล้วไม่ทำ-ดิจิทัล วอลเล็ต-ทำลายหลักนิติรัฐโยง “ทักษิณ” ปล่อยนักโทษเทวดา ข้องใจภาวะผู้นำเศรษฐา–มีนายกฯกี่คนกันแน่ ชี้หากชี้แจงไม่เคลียร์ ปชช.จะเริ่มไม่ไว้ใจ
วันที่ 16 มี.ค. 2567 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 3–4 เมษายนนี้ว่าถึงแม้ว่าเวลาในการอภิปราย จะมีเพียงแค่ 2วันซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนติดตามทวงถาม และมีเรื่องคาใจเกี่ยวกับนโยบายการบริหารงานของรัฐบาลเป็นจำนวนมาก แต่ทางฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะทำหน้าที่ในการอภิปรายฯอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้ ประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะดำเนินการอภิปรายนั้น จะมีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆก็คือ ในเรื่องของนโยบายที่มีการประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนในคำแถลงนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งนับจากวันแถลงนโยบาย ในวันที่ 11ก.ย.2566 จนถึงตอนนี้ ผ่านไป 6 เดือนแล้ว กลับพบว่านโยบายที่เป็นเรือธงสำคัญอย่างการเติมเงิน10,000บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น กลับมีความคืบหน้าเพียงแค่ซื้อเวลา เพื่อหาแพะรับบาป และที่ตนย้ำมาตลอดว่าเสียงสะท้อนจากประชาชนจริงๆนั้น พวกเขาต้องการเงินสดมากกว่าเงินในอากาศที่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนกว่าที่จะใช้งานได้จริง รวมทั้ง นโยบายอื่นๆ ที่ยังล้มเหลวในทางปฏิบัติต่อมา ในเรื่องของความเสมอภาค ที่ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนั้น ปรากฏว่าสิ่งที่สังคมรับรู้กันทั่วไปก็คือมีการใช้อำนาจทุกรูปแบบ เพื่อเอื้อให้นักโทษคนหนึ่ง มีสิทธิพิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งขัดกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law)ให้เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือ เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางความคิดและสังคมที่สำคัญของประเทศ
และประเด็นที่สำคัญ ที่ตนและทางฝ่ายค้านสงสัยมากที่สุดก็คือภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน เนื่องจากเท่าที่สังเกตก็คือ ตำแหน่งสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่านายเศรษฐาไม่ได้เป็นคนที่คัดเลือกมาเอง แต่น่าจะเป็นโควตาของบรรดานายใหญ่ นายหญิงและนายน้อย ภายในพรรค อีกทั้ง ยังมีข้อครหาว่าการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆต่างๆนายเศรษฐาน่าจะต้องรอให้ผู้มีอำนาจตัวจริง เป็นคนสั่งการลงมา จนเป็นที่มาว่า ตกลงแล้วประเทศไทยมีนายกฯกี่คนกันแน่
ดังนั้น ฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฯเพื่ออภิปรายสอบถามไปยังรัฐบาล โดยหวังว่ารัฐบาลจะมีคำตอบให้ทางสภาและประชาชน ได้ความกระจ่างและเป็นที่พอใจ ทั้งนี้ ยังมีประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการสอบถามอีกมากมาย เช่นปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ขณะนี้มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยไม่ใช่เป็นภัยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
ประเด็นเรื่องสองมาตรฐาน ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมองว่า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดินออกจากสนามบินจนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น จำเป็นจะต้องได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพราะการปล่อยให้นักโทษตามคำพิพากษาคนหนึ่ง มีสิทธิพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ จนถูกเรียกเป็น ‘นักโทษเทวดา’ ถือว่า รัฐบาลเองเป็นผู้สร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำให้กับคนในสังคมที่ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และทำลายหลักนิติรัฐอย่างชัดเจน ปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นรัฐบาลที่คิดใหญ่ทำเป็น แต่เห็นว่า บรรดากุนซือเศรษฐกิจของรัฐบาล พยายามสร้างมายาคติให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหา จึงจำเป็นต้องมาแจกเงินดิจิทัลวอลเลตเป็นต้น
“เพราะฉะนั้นผมจึงอยากเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีช่วยมาตอบคำถาม ที่ทางสส.พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายเอาไว้เพราะถ้าไม่มาหรือมาแล้วแต่ตอบไม่ตรงคำถามหรือได้คำตอบไม่ชัดเจน รัฐบาลก็จะต้องรับผลสะท้อนจากประชาชน ด้วยความรู้สึกที่ประชาชนเริ่มไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย” นายพิทักษ์เดช กล่าว