วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 1 นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงข่าวถึงเหตุการณ์การค้าประเวณีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยระบุว่าภาพรวมของการค้าประเวณีของไทยเป็นสิ่งที่ต่างประเทศจับตามองมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับ tier 2 แต่สภาพปัญหาในปัจจุบันเป็นยุคของโสเภณีเด็กกึ่งสมัครใจ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากและเป็นเรื่องที่แก้ยาก เพราะไม่ได้โดนบังคับขืนใจ แต่เป็นการสมัครใจค้าประเวณีเสียเอง ทำให้ต้องปราบปรามกับผู้ที่จะซื้อบริการ ถ้าหากซื้อบริการกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจะต้องเจอโทษสถานหนัก ส่วนอีกประเด็นคือ เด็กผู้หญิงที่ตั้งท้องก่อนวัยอันควรหรือการตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่พร้อม ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ส่งผลให้รัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
สำหรับการค้าประเวณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะนี้มีการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ 1. กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ตั้งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยในการสืบสวนข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามระบบราชการ 2.เครือข่ายปกป้องและคุ้มครองเด็ก ซึ่งประกอบด้วยองค์กรในเครือข่ายร่วมกันทำข้อมูลเชิงลึก โดยมีการทำข้อมูลร่วมกันกับกระทรวงมหาดไทย และ 3.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองเด็กที่ถูกนำไปเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า ถ้าผู้ใดนำเด็กหรือแสวงจากเด็กโดยมิชอบ ตามมาตรา 6 หมายถึงเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา โทษคือ จำคุก 4 ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 8 หมื่น ถึง 2 แสนบาท ยิ่งถ้าผู้กระทำเป็นพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ โทษจะหนักกว่าเป็น 3 เท่า นั่นคือจำคุก 12 ถึง 30 ปี
ในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ดำเนินการในเรื่องนี้ โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก และเยาวชน โดยมี คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี เป็นประธานอนุกรรมาธิการฯ เป็นผู้ประสานการทำงานร่วมกับกระทวงมหาดไทยและกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ซึ่งจะนำผลการดำเนินงานมาแถลงให้ทราบต่อไป