เมื่อเวลา 17.00น. วันที่ 12 ธ.ค. จากรณี เฟซบุ๊ก “>Drama-addict ระบุว่า “มีคนร้องเรียนมาบอกว่าเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ มาเที่ยวไทย ไม่สบายเข้า รพ แอดมิทสองวัน รพ คิดค่ารักษาประมาณแสนนึง นักท่องเที่ยวไม่มีเงินจ่าย จึงถูกยึดพาสปอรทไว้จนกว่าจะยอมจ่ายค่ารักษา ตอนนี้ประสานงานกับสื่อเรียบร้อยแล้ว เด๋วคงได้เห็นข่าวกันเร็วๆนี้”
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรลงมาแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว แม่งเรื้อรังมานานมากแล้วนะ แทนที่จะรักษาฝรั่งในราคาที่ยอมรับได้ แม่งขูดเลือดขูดเนื้อแบบกะตั้งตัวหนเดียวเลย สุดท้ายก็ได้เงินหนเดียว แล้วเขาก็จะไม่กลับมาอีกเลย แถมด้วยชื่อเสียของประเทศที่จะลือกระฉ่อนกันไปนานเท่านาน”
ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าหญิงสาวชาวต่างชาติ รายนี้ทราบชื่อว่า Miss Troy Louise rebecca(น.ส.ทรอย หลุยส์ รีเบคก้า) อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัวที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดื่อน มีอาการเจ็บช่องคลอดและหน้ามืดเป็นลม จึงได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะพะงันเมื่อวันที9 ธ.ค.59 และถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะสมุย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจากรักษาแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันเดียวกัน โดยทางโรงพยาบาลเรียกค่ารักษาเป็นจำนวนเงิน 103,319 บาท และแจ้งว่าใช้สิทธิประกันไม่ได้เพราะไม่ครอบคลุมคนท้อง ต้องชำระค่ารักษาทั้งหมด แต่น.ส.ทรอย เงินไม่พอจ่ายและขอให้ลดหย่อน โดยเบื้องต้นได้จ่ายไปก่อน 2 หมื่นบาท พร้อมกับให้พาสปอร์ตไว้ แต่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนหนึ้งมาแจ้งภายหลังว่า หากไม่ชำระให้ครบทั้งหมดจะต้องยึดพาสปอร์ตและถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับประเทศอังกฤษในวันที่ 11 ธ.ค. 59 นี้ ซึ่งยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะมีเงินมาชำระทั้งหมด จนมีเพื่อนคนไทยได้ขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับ นางจันทร รัตนสุวรรณ ประธานบริหาร โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์ พร้อมกับกล่าวว่า น.ส.ทรอย คนไข้รายนี้ที่เข้ามารักษาตัวด้วยอาการมีเลือดออกในช่องคลอด 2 วัน มีอาการหน้ามืด ตั้งครรภ์ได้ 10 สัปดาห์ แพทย์เฉพาะทางที่ตรวจรักษาเป็นห่วงเรื่องผลข้างเคียงทางสูติกรรม ทำการตรวจอัลตร้าซาวด์และได้สรุปการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะแท้งคุกคาม จากการรักษาไม่พบภาวะแทรกซ้อนจึงได้ให้คนไข้กลับบ้านได้ โดยมีค่ารักษาอยู่ที่ 100,000 บาท แต่ประกันของคนไข้ไม่ครอบคลุมคนท้องทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาทั้งหมด คนไข้ไม่มีเงินจ่ายทางโรงพยาบาล ก็ลดให้ร้อยละ 50 เหลืออยู่ที่ 50,000บาท คนไข้ก็บอกมาว่ามีเงินอยู่แค่ 20,000 บาท ทางโรงพยาบาลก็เก็บแค่ 20,000 บาทก่อน ส่วนอีก30,000 บาทให้มาจ่ายภายหลัง โดยที่ทางโรงพยาบาลต้องขอเก็บพาสปอร์ตของคนไข้ไว้ เพราะคนไข้มาจากต่างประเทศก็ไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับประเทศตอนไหน
นางจันทร กล่าวอีกว่า เมื่อคนไข้ไปที่เกาะพะงันทางแผนกต่างประเทศของโรงพยาบาลทั้ง2แห่ง ก็ได้ประสานงานเรื่องเก็บเงินค่ารักษาพยาบาส่วนที่เหลือ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นชาวต่างชาติของโรงพยาบาลไปพูดในลักษณะที่ทำให้คนไข้ไม่พอใจ โดยไปพูดว่าถ้าหากไม่มาชำระเงินส่วนที่ค้างอยู่ก็จะไปแจ้งความ ทำให้คนไข้ไม่พอใจคำนี้จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
นางจันทร ยังกล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่องถ้าคนไข้ไม่มีเงินจริงๆ เงิน20,000 บาท ที่จ่ายมาก็ไม่เอา เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติของเราเองพูดไม่เพราะกับคนไข้ ซึ่งไม่ใช่นโยบายของทางโรงพยาบาล และจะให้เจ้าหน้าที่คนนี้มาขอโทษคนไข้ ถ้าไม่ขอโทษทางโรงพบาลก็จะให้ออก ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลก็จะคืนเงิน 20,000 บาทพร้อมกับพาสปอร์ตให้กับคนไข้
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30น. ทางผู้บริหารโรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะพะงัน ได้คืนเงินสด 20,000 บาท พร้อมกับพาสปอร์ตให้กับ น.ส.ทรอย หลุยส์ รีเบคก้า อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ประจำเกาะพะงัน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
Matichon