“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ให้สัมภาษณ์ รายการ”คุยนอกจอ” กับ สรยุทธ สุทัศนจินดา ยืนยันหลักฐานมัด “กำนันนก” สั่ง ทำลายกล้องวงจรปิด-คราบเลือด จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ร่วมกันฆ่า
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย ที่บ้านพักของกำนันนก-นายประวีณ จันทร์คล้าย กำนันคนดังในจังหวัดนครปฐม รายแรกคือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงทั่วร่างกายกว่า 7 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่อีกราย คือ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ถูกยิงบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย ถูกนำส่ง รพ.ไปก่อนหน้านี้ ชนวนเหตุดังกล่าวเกิดจากกำนันพยายามจะโน้มน้าวขอวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งให้พรรคพวกที่อยู่ในสังกัดของ พ.ต.ต.ศิวกร แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะออกหมายจับนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เนื่องจากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุยิงตำรวจทางหลวง และล่าสุดกำนันนกได้เข้ามอบตัวแล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญฯ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา มือยิงแล้วนั้น (ด่วน! วิสามัญ ‘หน่อง ท่าผา’ มือยิงตร. ที่ จ.กาญจนบุรี เหตุต่อสู้ จนท.ขณะจับกุม)
เมื่อวันที่ 8 กันยายน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งในรายการ คุยนอกจอ ของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งกองปราบฯ และตำรวจพื้นที่ ได้ติดตามสืบสวนติดตามผู้ต้องหามาตลอด จนพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีเข้า จ.กาญจนบุรี ซึ่งตัวผู้ต้องหา ได้ใช้ปืนกล็อกที่ยิงสารวัตรแบงค์ มาต่อสู้กับตำรวจ จากการปะทะกันจึงเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต
นายสรยุทธถามว่า ยิงต่อสู้กันอย่างไร ถึงขนาดต้องวิสามัญฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมองว่า คนร้ายยังไงก็ไม่ขอมอบตัวอยู่แล้ว เพราะถ้าต้องการมอบตัว ต้องมอบตัวตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนแล้ว ขนาดกำนันนกที่เป็นลูกพี่ยังมามอบตัว ทำให้ทราบว่าเจ้าตัว คิดต่อสู้แน่นอน เพราะถ้าโดนคดียังไงก็ได้รับโทษหนัก ดังนั้นถ้าเจอเมื่อไหร่ ตำรวจก็ต้องระวังตัวส่วนได้สอบกำนันนก ด้วยตนเองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้คุย เพราะทราบอยู่แล้วว่ายังไงก็ให้การปฏิเสธ แต่เราก็ไม่ให้ประกันตัว ส่วนพยายานหลักฐาน วันนี้จะแจ้งข้อหากำนันนก เป็นผู้ใช้จ้างวาน ซึ่งเมื่อวานสั่งให้สอบประเด็นหลักๆเพิ่มเติม เพื่อจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันฆ่า เพราะในที่เกิดเหตุ เอาแม่บ้านมาสอบ จากที่แม่บ้านให้การ ทราบว่ากำนันนก เป็นคนสั่งทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้ง กล้องวงจรปิด คราบเลือด และกระสุน
นายสรยุทธถามว่า มีพยานให้การบ้างหรือไม่ว่า กำนันนก สั่งให้ไปยิง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ต้องไปสอบเพิ่มเติม ถ้าสอบประเด็นครบถ้วน และเป็นความจริง ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเรื่องร่วมกันฆ่า
“ทั้งนี้เป็นการตั้งข้อกล่าวหา ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ตามหลักกฎหมายไทยยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ดี เพราะเขาอยู่ในท้องถิ่น สนิทกับข้าราชการหลายส่วน วันนี้ถึงโอนสำนวนมากองปราบฯ ขึ้นอยู่กับศาลอาญารัชดา จะไม่ต้องไปวิ่งเต้นใครได้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นายสรยุทธถามว่า ตกใจหรือไม่ที่ตำรวจไปร่วมงานตั้ง 21 คน และมีการยิงต่อหน้าตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตกใจ เมื่อวานตนตำหนิ ทั้ง ผู้การ และ ผู้กำกับ ว่าต้องไปทบทวนตัวเองว่าอยู่ยังไง ถึงปล่อยปละละเลยได้ถึงขนาดนี้ อยู่อย่างไรถึงเหิมเกริมได้ขนาดนี้ อันนี้ไม่ใช่บทเรียน แต่เป็นความบกพร่อง
ส่วนตำรวจทั้ง 21 นาย ก็สั่งให้สอบรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเส้นทางการเงิน การไม่รักษาพื้นที่ ไม่รักษาของกลาง ถ้าเข้าข่ายฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องดำเนินคดีอาญาทั้งหมด ซึ่งตนได้เรียนให้ ผบ.ตร. ทราบเรื่องแล้ว เพราะคนที่อยู่ในงานมีทั้งผู้กำกับ 3 คน ยังมีผู้กำกับสืบสวนจังหวัด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ แต่ยังปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐาน
นายสรยุทธถามว่า ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเป็นผู้มีอิทธิพลแบบนี้ มาจากผู้กำกับในพื้นที่หย่อนยาน ถ้าผู้กำกับในพื้นที่เข้มแข็ง เรื่องแบบนี้มันไม่เกิด เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะมีแล้ว ส่วนมีการถามหรือไม่ว่าไปกินกับเขาบ่อยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ถามนอกรอบครับ ทราบว่าไปกินกันทุกเดือน เนื่องจากกำนันนกรู้จักตำรวจทางหลวงเยอะ เพราะทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เขาจึงเรียกตำรวจไปกิน ซึ่งการเรียกไปกินนั้นเพื่อเสริมสร้างบารมีตัวเอง กินจนกระทั่งหมดความเกรงใจ เหตุการณ์จึงออกมาแบบนี้
นายสรยุทธถามว่า ปมสาเหตุคือการสลับตำแหน่งระดับจ่าเท่านั้นหรือ เพราะมันแปลกมาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปมเริ่มจากเรื่องนี้ แต่ยังมีประเด็นอื่นอีกนิดหน่อยที่เชื่อมโยง และยังมีเรื่องการเมาสุรา ส่วนประเด็นนั้นตนขอไม่พูด เพราะจะกระทบการสอบสวน
นายสรยุทธถามว่า มีประเด็นคุยเรื่องส่วยแล้วไม่สำเร็จ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องส่วยตนยังไม่มีข้อมูล วันนี้คดีแยกเป็น 3 ส่วน คือ คดีหลักกองปราบฯรับไปทำ คดีวิสามัญฯ ตำรวจภูธรท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ และที่ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 สภ.เมืองนครปฐม เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ทำงานรวดเร็วขึ้น