“นิพนธ์” ลุยเดินสาย “สงขลา-สตูล” ชูนโยบาย ปชป.สู้เลือกตั้งในโค้งสุดท้าย

“นิพนธ์ บุญญามณี” ลุยเดินสาย “สงขลา-สตูล” ช่วยผู้สมัคร โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ชี้ นโยบาย ประชาธิปัตย์ เน้นสร้างความยั่งยืน โว “ทำไม่ได้-เป็นปัญหา” ปชป.ไม่ทำ!!!

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงช่วย น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สงขลาเบอร์ 2 ที่ สนามติดโรงเรียนเทศบาล 2 อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมด้วย ดร.รัชดา ธนาดิเรก ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายขื่อ และ ดร.อับดุลรอหมาน กาเหย็ม ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายขื่อ และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 6 ให้ความสนใจมารับฟังการปราศรัยอย่างล้นหลามนายนิพนธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า นโยบายขอ งพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ในเรื่องของนมโรงเรียนตั้งแต่ปี 36 นายชวนคิด ประชาธิปัตย์ทำ ประชาธิปัตย์ ประกาศต่อรอบหน้านี้จะให้เด็กกินนมโรงเรียนทั้งปีคือ 365 วัน คิดมา 30 ปียังไม่มีใครกล้ายกเลิก เรื่องของกองทุน กยศ. นี่ก็นายชวนคิดประชาธิปัตย์ทำ เป็นนโยบายประชาธิปัตย์ เพื่อให้ลูกหลานพี่น้องได้เรียนหนังสือ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา เพราะทุกคนมีสิทธิ์เรียนหนังสืออย่างเท่าเทียมกัน ทุกวันนี้ คนได้กู้เงินนี้ไปเรียนถึง 6 ล้านกว่าคน สมัยที่ท่านจุรินทร์หัวหน้าพรรค เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา ให้ฟรีทั้งเครื่องแบบนักเรียน ฟรีกระเป๋า ฟรีรองเท้า ทัศนศึกษาฟรี นี่ประชาธิปัตย์ทำ และก็ยังให้ฟรีแก่เด็กนักเรียนจนถึงทุกวันนี้ และในรอบหน้าประชาธิปัตย์ยังบอกอีกว่า ถ้าได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะให้เรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน เพราะเมื่อเด็กจบมาแล้วจะได้มีงานทำ เลี้ยงครอบครัวได้และจะไม่ป็นภาระของสังคม นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์คิดแบบนี้ จึงเป็นที่มาของคำนิยาม”สร้างคน”ของประชาธิปัตย์นิพนธ์ กล่าวต่อว่า พี่น้อง อสม.เมื่อก่อนก็ถูกใช้งานฟรี แต่ประชาธิปัตย์ เห็นคุณค่าของอสม. นายกฯอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้เงินแก่ อสม.เป็นคนแรก และตอนนี้ประชาธิปัตย์ ก็ส่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุขไปดูแลสาธารณสุข และ ดูแลอสม.ทั่วประเทศ ซึ่งได้จัดตั้งกองทุน อสม. มีสมาชิกล้านกว่าคน ใครเสียชีวิตเก็บคนละ ห้าสิบสตางค์ จะได้ห้าแสน และ ต่อมาประชาธิปัตย์คิดต่อโดยให้สมาชิกอสม.เอาสิทธิ์นี้ ไปกู้ธนาคารได้ 3 แสนบาทในระหว่างมีชีวิตอยู่ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์คิดเรื่องแบบนี้ และ ไม่กี่วันนี้ก็ได้เสนอต่อครม.แล้วว่า ในรอบหน้าถ้ามีเงินจะให้อสม.คนละ 2,000 นี่ประชาธิปัตย์คิด เพราะเราเป็นเจ้าของนโยบาย อสม. ประชาธิปัตย์คิด ประชาธิปัตย์ทำ นี่ถ้าไม่ดีจริงคงถูกยกเลิกไปแล้ว แต่นี่เป็นสิ่งที่ดี ผู้สูงอายุก็เช่นกัน คนคิดเรื่องผู้สูงอายุคนแรก ก็คือท่านชวน หลีกภัย คิดมาให้ 200 และเพิ่มเป็น 300 เพื่อซื้อหมากซื้อพลูและให้เฉพาะคนจน เพราะฉะนั้น ลุงชวนคิดเรื่องของผู้สูงอายุ ประชาธิปัตย์คิดถึงเงินอสม. คิดให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ เรื่องให้ลูกหลานกินนมที่โรงเรียน คิดเรื่องถนนสี่เลนและอีกหลายนโยบายที่พรรคคิด และนี่คือเหตุ ที่ต้องเลือกประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว และสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำต่อไปคือ จัดตั้งธนาคารทุกหมู่บ้านและทุกชุมชน โดยให้หมู่บ้านละ 2 ล้าน และ ชุมชนอีก 2 ล้านบาท และอินเตอร์เน็ตฟรีทั่วประเทศ 1 ล้านจุดจากนั้นนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปจังหวัดสตูลเพื่อปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับผู้สมัคร ในเขต 1 นายซอบรี หมัดหมัน หมายเลข 3 และ เขต 2 นายเกตุชาติ เกษา หมายเลข 1 โดยนายนิพนธ์ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า หลายคนมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่ทำอะไรเลยนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนโยบายที่ทุกพรรคการเมืองใช้หาเสียงทุกวันนี้ ที่โฆษณาจะให้นั่นให้นี่ เพิ่มนั่นเพิ่มนี่ ล้วนแล้วมาจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งนั้น ทั้งนโยบายเรื่องการศึกษาเรียนฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี นมโรงเรียน เบี้ยอสม. เบี้ยผู้สูงอายุ หลักประกันสุขภาพ และอีกหลายๆ นโยบายที่ประชาธิปัตย์ทำล้วนแล้วแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม สร้างประชาชนให้มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและสติปัญญาจึงเป็นที่มาว่าประชาธิปัตย์สร้างคน ซึ่งในทุกๆเรื่องก่อนจะประกาศเป็นนโยบายได้ต้องกลั่นกรองมาอย่างดี ถ้าทำไม่ได้จะไม่ประกาศ ถ้าทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ เป็นปัญหากับประชาชนและประเทศชาติจะไม่ทำ และถ้าทำแล้วไม่เกิดความไม่ยั่งยืนก็ไม่ทำ จึงทำให้นโยบายต่างๆของประชาธิปัตย์อยู่มาถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่ดีจริงคงถูกยกเลิกไปนานแล้วในหลายรัฐบาลนี่จึงความยั่งยืนของนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่แต่ละพรรคเอาไปทำตาม