“นฤมล” ลั่น! พปชร. พร้อมผลักดันนโยบาย “บ้านประชารัฐ 360 องศา” ช่วยปชช.

“นฤมล” ช่วย “ชญาภา” หาเสียง ประกาศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ พรรคพปชร. ก็พร้อมผลักดันนโยบาย “บ้านประชารัฐ 360 องศา” ทันที ลั่น ยานนาวา ต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เพิ่มรายได้ชุมชน

วันที่ 23 เม.ย.2566 เวลา 12.30 น. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และหัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้ง กทม. ลงพื้นที่ชุมชนร่วมพัฒนาเชื้อเพลิง 2 เขตยานนาวา ช่วย น.ส.ชญาภา ปรีดาพากย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 7 เบอร์ 15 รณรงค์หาเสียง โดยได้ร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมเยี่ยมชมโครงการบ้านมั่นคง ที่พรรคได้เข้ามาช่วยประสานความช่วยเหลือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในด้านการจัดหาน้ำประปา และน้ำเสียในชุมชน พร้อมนำเสนอนโยบายชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อมที่ดีนางนฤมล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ต้องการผลักดันชุมชนร่วมพัฒนาเชื้อเพลิง 2 จากชุมชนแออัดสู่โครงการบ้านประชารัฐ 360 องศา เราอยากจะเข้ามาเป็นผู้ประสานงาน เพื่อให้โครงการดีๆ เช่นนี้เกิดขึ้นได้ให้กับประชาชน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถวางแผนชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสำหรับลูกหลานว่าจะเรียนที่ไหน ทำมาหากินตรงไหน ซึ่งโครงการบ้านประชารัฐนี้ ไม่ว่าเราจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น เราก็จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพื่อให้ชาว กทม.มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะบ้านที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเพื่อให้มีชีวิตมีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสุข“บ้านประชารัฐ 360 องศา ต้องมีการออกแบบและสร้างให้ถูกใจผู้อยู่มากขึ้น บริเวณภายในบ้านต้องตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่อง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงหรือเด็กๆ ในครอบครัว นอกจากนี้ยังเห็นศักยภาพของเขตยานนาวาที่จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 แห่ง คือ วัดทองบน วัดปริวาส วัดด่าน และ วัดคลองภูมิ ที่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้” นางนฤมล กล่าว และว่าพรรคพลังประชารัฐ เห็นโอกาสส่งเสริมที่จะพื้นที่เขตยานนาวา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เพราะพื้นที่ตรงนี้มีภูมิทัศน์วัดวาอาราม และแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถส่งเสริมให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมาเดินชมความงามของวัดในยามเย็น และส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าในชุมชนมาขายเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ด้วย

ด้าน น.ส.ชญาภา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา ตนได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งตนมองว่า สวนทางกับผลสำรวจที่ออกมาว่า กระแสของพรรคพลังประชารัฐไม่ดี เพราะถ้าได้ลงพื้นที่จริงๆ จะเห็นว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุ ให้การตอบรับนโยบายดูแลผู้สูงอายุของพรรคพลังประชารัฐอย่างดีมาก ทุกคนอยากให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้จริง และชื่นชมพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังเล็งเห็นคุณค่าของพวกเขา โดยสวัสดิการที่จะเพิ่มเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุแบบขั้นบันได โดยผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพ เพิ่มเป็น 3,000 บาทต่อเดือน, ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพเพิ่มเป็น 4,000 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพเพิ่มเป็น 5,000 บาทต่อเดือน จะสามารถมาดูแลชีวิตของพวกเขาและลูกหลานของเขาได้.