มนตรี เฉียบแหลม เปิดเผยกับ #นายหัวไทร ว่า ได้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 และ 2 ในนามพรรคเพื่อไทย
“เขต 1 มีปรีชา แก้วกระจ่าง เสนอตัวด้วย จึงมีการพูดคุยกัน กำนันปรีชา เสนอเงื่อนไขว่า เขตไหนมีตำบลปากนครรวมอยู่ ก็จะลงเขตนั้น ถ้ากำนันปรีชาลงเขต 1 ผมก็จะขอไปลงเขต 2 แทน”
มนตรี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองในจังหวัดนครศรีธรรมราชมาร่วม 20 ปีแล้ว หลังลาออกจากราชการ ก็มาลงสมัคร ส.ส.เป็นกรรมการบริหารพรรคเสรีธรรม ที่ต่อมาไปรวมกับพรรคไทยรักไทย“หลังจากนั้นก็อยู่บนเส้นทางการเมืองมาตลอด ไม่กลับเข้ารับราชการอีก และมาจับธุรกิจการบริบาลในภาคใต้มี 8 จังหวัด ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และต่อยอดสถานดูแลผู้สูงอายุอีก 2 จังหวัด คือนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี”
มนตรี บอกว่า ธุรกิจการบริบาลไปได้ดีมาก เพราะว่าไทยเราเป็นสังคมผู้สูงอายุแล้ว 100% มีผู้สูงอายุเกิน 20% ลูกๆก็ไม่มีเวลาดูพ่อแม่ ภาคเอกชนก็เข้ามาช่วยดูแลเสริมภาครัฐ มีการพักฟื้น ทำกายภาพบำบัด น้องๆที่จบการบริบาลมาก็มีงานทำ ในการดูแลผู้สูงอายุ
“ตามหลักสูตรการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ จะต้องเรียน 840 ชั่วโมง เป็นภาคทฤษฎี 420 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 420 ชั่วโมง เด็กจบแล้วมีงานทำ 100%”
มนตรี บอกว่า ตั้งแต่เปิดสอยมามีเด็กจบออกไปแล้ว 12000 กว่าคน เป็นอาชีพที่ขาดแคลน คนที่มีความรู้และมีประสบการณ์มีน้อยมากมนตรีอธิบายว่า ที่เสนอตัวลงเขต 1 หรือ 2 เพราะมาปักหลักทำธุรกิจอยู่ในเมืองมานานร่วม 15 ปี ย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองแล้ว ทำธุรกิจก็อยู่ในเมือง ทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่ในเมือง
“เราชอบการเมืองอยู่แล้ว พรรคเพื่อไทยมีนโยบายหลายเรื่องในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ผมจึงขันอาสามาลงสมัครในเขตเมือง”
เมื่อมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จำนวน ส.ส.เพิ่มเป็น 10 คน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า กำนันปรีชาน่าจะได้ลงเขต 1 และมนตรีก็จะขยับไปลงเขต 2 ซึ่งถือเป็นแนงทางที่ลงตัว
กล่าวสำหรับเขต 2 มีความเป็นไปได้สูงว่า มนตรีจะต้องแข่งกับสายัณห์ ยุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะย้ายมาลงเขต 2 เพื่อเปิดทางให้อำนวย ยุติธรรม น้องชายได้ลงในโซนท่าศาลา
#นายหัวไทร