“บิ๊กตู่” เคลียร์การเมือง ปมจดหมาย “บิ๊กป้อม -โอกาสรัฐประหาร”

129

“บิ๊กตู่” เมินจดหมาย “พี่ป้อม” โยงรัฐประหาร ลั่นครั้งสุดท้ายจบไปแล้ว มองการเขย่าข่าวช่วงนี้ดิสเครดิต ชี้ถ้าขัดแย้งแบบเดิมจะใช้วิธีอะไรแก้ไม่รู้ ออกตัวไม่เกี่ยวด้วย ยันเดินตาม ปชต. ไม่ให้ใครลากออกนอกกติกา โวโลกยกระดับไทยประชาธิปไตยดีขึ้น 

วันที่ 9 มี.ค.2566 เวลา 11.50 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยเมื่อเห็น ผู้สื่อข่าว พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าทำไมอยู่กันน้อย ผู้สื่อข่าวตอบว่าไปทำข่าวพรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แล้วทำไมพวกเราไม่ไปกับเขา ผู้สื่อข่าวตอบว่ารอติดตามนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า ขอบคุณมาก

ต่อข้อถามว่ามองบรรยากาศหาเสียงของพรรคการเมืองตอนนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็หาเสียงในสิ่งที่ทุกคนคิดว่าจะทำในวันข้างหน้า ซึ่งตนไม่อยากไปเกี่ยวข้อง ต่างคนก็ต่างหาเสียง สำหรับตนเองถ้าตอบในฐานะที่ไม่ใช่นายกฯบอกแล้วว่าการหาเสียงทุกอย่างต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ไม่ทำให้เกิดภาระปัญหาของประเทศในวันข้างหน้า เราอุตส่าห์แก้มาตั้งนานหลายๆเรื่องดีขึ้น ถ้ากลับไปที่เก่าทั้งหมดมันก็มีปัญหาเมื่อถามว่า ได้อ่านจดหมายฉบับล่าสุดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ก็อ่านไปไม่เห็นมีอะไรนิ ใครจะเขียน ก็เขียนได้ทั้งนั้นแหละ ก็คิดเอาเองแล้วกัน

ส่วนที่มีการย้อนพูดไปถึงเรื่องอำนาจนิยมคาบเกี่ยวกับรัฐประหารนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันตั้งแต่ปีไหนมาแล้ว และตนมายืนตรงนี้มาด้วยอะไร รัฐธรรมนูญไม่ใช่หรอ ด้วยระบบสภาไม่ใช่หรอ และในช่วงก่อนนั้นตนก็จำเป็นต้องพูดนิดหนึ่ง ช่วงนั้นมันเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยลองดูสิ ถ้ามันไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลงมันจะเกิดอะไรขึ้นถึงวันนี้เราจะยืนอยู่แบบนี้ได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย

เมื่อถามว่ามองว่าวันนี้บรรยากาศไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรถึงขั้นที่จะกลับไปแบบนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นจะมีอะไรเลย เพียงแต่ว่าประชาชนทุกคนต้องคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะพัฒนาได้ ประเทศนี้ต้องสงบเรียบร้อยมีความสุข คำว่ามีความสุขคือไม่มีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น อะไรทำนองนี้ อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประวิตรเขียนถึงเรื่องนี้ 2-3 ครั้งแล้วที่ย้อนไปถึงเรื่องการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็แล้วแต่ท่าน และ เมื่อถามว่ามองกันว่าถ้านายกฯไม่ได้กลับมาโอกาสรัฐประหารอาจเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า ใครจะรัฐประหารล่ะ ซึ่งเมื่อสื่อถามอีกว่า หากอีกฝั่งหนึ่งมาเป็นรัฐบาลแล้วเกิดความวุ่นวาย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า “แล้วใครจะทำๆ ผมถาม”

ต่อข้อถามว่าประเทศควรมีรัฐประหารอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า “ผมเคยพูดมาตั้งนานแล้ว ว่ามันครั้งสุดท้ายแล้วครั้งโน้น มันไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว มันอยู่ที่พวกเรานั่นแหละจะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งกันรุนแรงกันผมก็ไม่รู้มันจะแก้ปัญหาด้วยอะไรไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมไม่เกี่ยวแล้ว”เมื่อถามว่าแสดงว่าหลังจากนี้จะไปสู่ประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวย้อนถามว่า แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรอ สื่อถามอีกว่าหมายถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ประชาธิปไตยไง ทุกคนก็ต้องรักษากฎกติกา กฎหมายมีทุกตัว

เมื่อถามว่าข่าวรัฐประหารออกมาในช่วงนี้ที่จะมีการเลือกตั้ง มองว่าเป็นการดิสเครดิตตัวนายกฯใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายกฯเคยมาระบอบนั้น พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า หรอ แต่มันนานแล้วนะ เมื่อย้ำถามว่ามองเป็นการดิสเครดิตตัวนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า สื่อก็ถามมาแบบนี้อยู่แล้ว ก็แน่นอนต้องดิสเครดิตเราแน่นอน ตนได้อธิบายชี้แจงไปหลายครั้งในสภาก็พูด อะไรก็พูด ก็คิดเองแล้วกัน

เมื่อถามว่ามองว่า พล.อ.ประวิตรเปลี่ยนไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า “เขาเป็นพี่ผมเหมือนเดิมแหละ ไม่มีอะไรหรอก”

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการออกมาสื่อสารทางการเมืองแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็มีคนช่วยท่านเยอะอยู่แล้ว เมื่อถามว่ามาจากคนรอบข้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ไม่ทราบ เมื่อถามอีกว่า พิจารณาจากคำพูดคิดว่าไม่ใช่ตัวตนของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบๆ ไม่รู้

เมื่อถามว่า คิดว่า พล.อ.ประวิตรเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปแข่งอะไรกับท่าน ที่ตนพูดวันนั้นหมายความว่าให้มองในมุมมองภาพใหญ่กับสิ่งที่รัฐบาลทำในตอนนี้เข้าใจไหม ทุกคนเก่งหมด หลายคนอาจจะมองว่าตนไม่มีความรู้ทางเศรษฐกิจ ตนอยู่มาหลายปีแล้วก็ศึกษาและมีคนเก่งๆอยู่กับตนตั้งเยอะแยะเป็นร้อยมั้ง ใช่ไหม

เมื่อถามว่าในฐานะที่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มองว่าพรรคไหนเป็นพรรคคู่แข่งตัวจริงที่น่ากลัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคแหละมั้ง เพราะทุกพรรคก็แข่งกันหมด

ส่วนเมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรชูจุดขายเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วมันขัดแย้งตอนไหนตอนนี้ เมื่อถามว่า เป็นเรื่องของขั้วอำนาจ อนุรักษนิยมกับเสรีนิยมประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ขั้วอะไรผมไม่มีขั้วสักขั้ว คิดกันเองหมด อย่าสร้างความสับสนอลหม่านมากนักเลย ใครพูดอะไรเอามาขยายหมดมันก็มีแต่เรื่องนั่นแหละ ฉะนั้นผมจะไม่พูดอะไรในเรื่องพวกนี้ มันจบไปแล้วก็จบไปแล้วของเก่า วันนี้เดินหน้าประเทศบนท่ามกลางความสงบสุขเรียบร้อยของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรอใช่ไหม ผมก็คิดแค่นี้แหละ ที่ผ่านมาผมก็คิดแบบนี้มาตลอด”

เมื่อถามว่า นายกฯคิดว่าหากได้กลับมาจะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ความขัดแย้งมันไม่มี จะมีตรงไหน ตนไม่เห็นมีอะไรขัดแย้งทั้งสิ้น แต่ถ้าความเห็นต่างโอเค รับได้ ถ้าความขัดแย้งมันต้องต่อยตีกันสิ ใช่ไหม ต่อยตีกันหรือทำอะไรสักอย่าง ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วหลายปีที่ผ่านมามันเกิดมาแล้วอย่าให้มันเกิดอีก”

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่นายกฯพยายามจะสู้บนระบอบประชาธิปไตยตามกติกา แต่ก็มีคนพยายามลากนายกฯออกมาเล่นนอกกติกา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ้าว เรื่องอะไรผมจะให้เขาลากออกไปเล่า ผมก็อยู่ในกติกาของผม กติกาของประชาธิปไตย วันนี้จากต่างประเทศประเมินประเทศไทยอันดับขึ้นเรื่องประชาธิปไตยดูตรงนั้นสิ โลกลงคะแนนกันมาแล้วคะแนนเราสูงขึ้นแล้ว มาบอกว่าเราไม่มีประชาธิปไตยตรงไหน ผมไม่เข้าใจ”