อัลวาร์ อิบรอฮีม ร่วมละหมาดวันศุกร์กับพี่น้องมุสลิมประเทศไทย ระบุไทย-มาเลยฯสัมพันธ์ยาวนาน พร้อมร่สมมือกันในการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดสันติสุขในภาคใต้
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นายอัลวาร์ อิบรอฮีม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย พร้อมด้วยภริยาดร.วันอาซ๊ซะห์ อิบรอฮีม ได้เดินทางมาละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย คลองตัน กรุงเทพมหานคร โดยมีนายชาฟีอี นภากร อิหม่ามประจำมัสยิดและคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯให้การต้อนรับ
ดร.วันอาซ๊ซะห์ ได้เดินทางมาถึงก่อน โดยมีกลุ่มแม่บ้านสตรี อาทิ นางอลิสา พิศสุวรรณ ภริยาดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ฮัจยะดารา ขัตติยะอารีย์ ประธานมูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม นางศรีวรรณ สายฟ้า นายกสมาคมสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยได้ร่วมพูดคุยถึงกิจกรรมสตรีในประเทศไทย
นายอัลวาร์ และคณะได้เดินทางมาถึงเวลา 12.30 น. จากนั้นได้ขึ้นไปบริเวณหน้ามิมวัรจของมัสยิดละหมาดสุนัต ฟังคุตบะห์ จากนายชาฟีอี นภากร ที่คุตบะห์เป็นภาษามลายู และได้ละหมาดร่วมกัน หลังจากละหมาดนายอัลวาร์ ได้พบปะกับพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมไทยและมาเลเวียที่แนบแน่นกับมายาวนาน โดยส่วนตัว นายอัลวาร์ ระบุว่า สมัยเป็นเยาวชนได้รน่วมกิจกรรมการเยาวชนมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งหลายคนได้มาในวันนี้ เป็นความผูกพันที่มีมายาวนาน และพร้อมที่จะร่วมมือในการขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาในชายแดนใต้ของประเทศไทย
จากนั้น นายอัลวาร์ ได้เข้าห้องรับรองเพื่อพบปะกับคณะกรรมการฒูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ และรับประทานอาหารว่าง ดร.จรัล มะลูลีม ศาสตราภิชานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัตน์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนยสังคมมุสลิม และได้ชื่นนายอัลวาร์ในการเป็นนักต่อสู้ เพื่อส้งคมมุสลิม จนได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง นายอัลวาร์ ได้ตอบกลับ โดยชื่นชมแกนนำมุสลิมที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลักหลายเพื่อสังคม จากนั้นได้ลงนามในสมุดเยี่ยม และถ่ายรูปร่วมกัน และเดินทางออกจากมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ กลับที่พัก และเดินทางกลับประเทศมาเลเซียในช่วงค่ำ
นายอัลวาร์ ได้เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในระหว่่างวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ โดยได้พบปะกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เจรจาและลงนามความร่วมมือในหลายด้าน รวมทั้งกาารร่วมกันพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียในด้านเศรษฐกิจ