ปชป.ชู นโยบาย “สันติภาพสู่สันติสุข” จุดจบปัญหาความขัดแย้ง นำสู่การพัฒนา

66

“นิพนธ์” เปิดใจกับ “นายหัวไทร” ถึงแนวทางแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ต้องยึด ยทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของในหลวงรัชกาลที่9 เป็นต้นแบบ และ ต้องทำอย่างจริงจัง ขณะ ปชป.ชูนโยบาย” สันติภาพสู่สันติสุข”

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ กับ #นายหัวไทร ถึงแนวนโยบาย เฉพาะพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในฐานะที่พรรคมอบหมายให้ดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประชุมร่วมกับ ส.ส.ว่าที่ผู้สมัคร และ ภาคประชาสังคม สิ่งหนึ่งที่หลายคนได้ให้ความเห็น คือ อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ประกาศนโยบายสร้างสันติภาพ ให้เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเห็นว่า ตลอดช่วงเวลาหลังเกิดเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ก(ค่ายกรมทางหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) ที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 19 ปีผ่านมาแล้วก็ยังไม่ปกติ เราใช้งบฯ ไปแล้ว 400,000 กว่าล้าน เกือบ 500,000 ล้าน

“สันติสุขจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีสันติภาพ การปรองดอง การพูดคุยกับคนเห็นต่างจากรัฐ ไม่ใช่เรื่องแปลก อะไรที่ยังเห็นต่าง อะไรที่เขาขอความมั่นใจกับฝ่ายอำนาจรัฐ ก็พูดคุยกันได้ไม่เห็นแปลก” นิพนธ์ กล่าว และย้ำว่า เราเคยมีบทเรียนในอดีตช่วงต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศ (พคท.) เกิดการรบราฆ่าฟันกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูหินร่องกล้า และ อีกหลายแห่งทั่วประเทศตายกันไปเยอะ ก็จบลงด้วยการเจรจา

“จะเรียกว่าพูดคุย หรือเจรจาก็ได้ สาระสำคัญอยู่ที่สาระ ความเข้าใจกัน อยู่ที่เนื้อหาความสำเร็จ ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เปิดโอกาสให้กลุ่มคนเห็นต่างเข้ามามีบทบาททางการเมือง ไม่เอาผิดเอาโทษกัน”

นิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในอดีตเราเคยมีบทเรียนมาแล้วกับพรรคคอมมิวนิสต์ ถ้าดำเนินคดีก็มีเยอะแยะ เมื่อมีการพูดคุยเจรจา เปิดโอกาสให้ ในที่สุด พรรคคอมมิวนิสต์ก็พ่ายแพ้ไป อันเนี่ยต้องถอดบทเรียน มาพูดคุยกัน ตนเชื่อว่า ขบวนการที่เดินอยู่ ต้องเดินหน้าต่อไป ต้องทำให้เห็นผลสัมฤทธิ์ อย่าไปเข้าใจว่า การเจรจา คือ การแบ่งแยกดินแดน มันไม่มีอย่างนั้นแล้วทุกวันนี้ เพียงแต่ว่าการมีส่วนร่วมทางการเมือง การพูดคุยจะระดับไหน จะทำให้เกิดการปรองดอง สมานฉันท์กันได้อย่างไร

“ผมเห็นว่า ยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นยุทธศาสตร์หลัก ถ้าทำให้เป็นจริงได้ ไม่ใช่ท่องจำกันอย่างเดียว อันนี้คือ แนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างถาวร” นิพนธ์ กล่าว และเห็นด้วยว่า เมื่อความขัดแย้งจบลง เราจะได้พัฒนาพื้นที่ สร้างความสันติสุขให้เกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น อยากเห็นการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ เมื่อสถานการณ์สงบลง ความขัดแย้งจบลง เราจะได้เดินหน้าในการพัฒนาในพื้นที่ สร้างความสันติสุขให้เกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นสันติสุข อยากเห็นการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

“สิ่งที่ประชาธิปัตย์ประกาศไว้ คือสันติภาพสู่สันติสุข ทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความมั่นคงทางอาหาร ชัดเจนว่า พื้นเพทางการเกษตร ประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง พืชไร่ พืชสวน ผัก ผลไม้ ทำให้ ยะลาเป็นศูนย์กลางของผลไม้ พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมในการส่งเสริมให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการเลี้ยงปศุสัตว์ พวกโค กระบือ วันก่อนผมได้รับมอบหมายให้ไปมอบทุนให้กับกลุ่มผู้เลี้ยงโคลังกาสุกะ 14 กลุ่ม ก็เห็นอนาคตว่า งบประมาณ 54 ล้านบาท ที่ให้การสนับสนุนไป เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อย่างนี้แหละ สันติสุขจะเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริงครับ” นิพนธ์ กล่าวในที่สุด

#นิพนธ์ #ประชาธิปัตย์ #จังหวัดชายแดนใต้