กกต.รับรายงานปม “ปฏิทินสายัณห์-บิ๊กตู่” ชี้ ไม่มีหน้าที่สอบเงินผิดกฎหมาย

เลขาฯ กกต. รับรายงาน “ปฏิทินสายัณห์-ตู่” รอดูข้อเท็จจริง ชี้พรรคการเมืองเป็นด่านแรกตรวจสอบคนบริจาค ชี้ปมเงินผิดกฎหมาย กกต. ไม่มีหน้าที่สอบ ทางด้าน “ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต. สอบปฏิทินรูปคู่นายกฯ ตู่ แม้ยังไม่ผลิตแต่มีการเผยแพร่ ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว   

วันที่ 22 ธ.ค. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ทำปฏิทินรูปคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ว่า เราได้รับรายงานทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ รูปแบบเป็นปฏิทิน แต่เขายังไม่ได้ทำเป็นปฏิทิน เท่าที่ฟังคำชี้แจงของเขาแล้ว ที่บอกว่าทำเป็นป้าย ซึ่งรูปแบบของป้ายทำในเชิงปฏิทินก็ได้ หรือถ้าเป็นรูปแบบปฏิทินแล้วไปหาเสียงในโซเชียลก็ได้ แต่ปฏิทินแบบเดิมๆ แล้วนำไปแจกไม่ได้ เพราะนั่นจะถือเป็นทรัพย์สินแล้ว แต่ถ้าอยู่ในโซเชียลเป็นป้ายได้ เพราะไม่ได้แจกประชาชน มันเป็นการสื่อถึงประชาชน อวยพรประชาชนในเทศกาลปีใหม่ ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าในช่วงนี้ใกล้จะถึงวันเลือกตั้ง ส.ส. จะทำของแจกจ่ายประชาชน มีข้อกำชับอะไรพิเศษหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เชื่อว่าทุกคนรู้ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง เห็นหรือไม่พอคนคิดจะทำปฏิทินก็เกิดปัญหาทันที แค่คิดนะ ตนไม่รู้ว่าเค้าคิดจะทำอะไร ก็มีการตรวจสอบ เขาต้องระวังอยู่แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าทั้งผู้สมัครและพรรคการเมืองทราบดี

 

ส่วนกรณีการบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เราต้องตรวจสอบคนบริจาคหรือไม่ เพราะเห็นได้จากกรณีของพรรคพลังประชารัฐที่มีคนต่างชาติบริจาคว่า เรื่องเงินบริจาคคนแรกที่ตรวจสอบคือ พรรคการเมือง เพราะกฎหมายกำหนดให้พรรครับบริจาคและประกาศให้ประชาชนรับทราบ จากนั้นค่อยมาส่งให้ กกต. และ กกต. จะประกาศให้ประชาชนรับทราบต่อไปนั้น หมายถึงมีการตรวจสอบ 2 ชั้น แต่จะตรวจสอบได้มากน้อยแค่นั้น ดูจากกรณีบุคคลมีสัญชาติไทย เราเองดูจากเลขบัตรประชาชน แต่ถ้าบอกว่าเป็นเงินไม่ชอบด้วยกฎหมาย เรื่องนี้มันต้องมีหน่วยตรวจสอบ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ให้ กกต. ไปตรวจสอบ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. ที่จะไปตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้เมื่อมีการร้องเรียนมาเราก็ตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าถ้าตรวจสอบมาแล้วเงินไม่ชอบด้วยกฎหมายจะดำเนินการอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า มันมีกฎหมายรองรับอยู่ อย่าเพิ่งคะเนไปถึงเรื่องนั้น ขอให้ดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณี นายสายัณห์ได้มีการทำปฏิทินพร้อมขึ้นรูปคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) นายสายัณห์ออกมาชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเพียงการทำเป็นกราฟิกยังไม่ได้เอาไปทำเป็นปฏิทินแจกประชาชนแม้แต่แผ่นเดียว เพียงแต่มีการส่งภาพกราฟิกนี้ให้เพื่อนดูเป็นการส่วนตัว แล้วภาพนั้นมีการหลุดออกไป และนายสายัณห์ยังบอกว่าการกระทำครั้งนี้ยังไม่เป็นความผิดสำเร็จ ซึ่งตามจริงแล้วความผิดมันได้สำเร็จตั้งแต่ได้มีการทำกราฟิกขึ้นมาแล้วส่งให้เพื่อนดูแล้ว เพราะเพื่อนของนายสายัณห์ถือว่าเป็นบุคคลที่สาม ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ว่า ภาพกราฟิกนั้นจะไม่ถูกนำเอาไปเผยแพร่ได้อย่างไร ด้วยทุกวันนี้ การหาเสียงไม่จำเป็นต้องมาแค่ผลิตเป็นปฏิทิน หรือป้ายไวนิลอย่างเดียว แต่การหาเสียงในปัจจุบันนี้เป็นการหาเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ดังนั้นการส่งภาพสวัสดีปีใหม่และมีรูปคู่กับนายกฯ และมีชื่อพรรคการเมืองอื่น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีความผิด

อีกทั้งการที่นายสายัณห์ออกมาปฏิเสธว่า ภาพนั้นยังไม่ได้เผยแพร่ ตนมองว่าไม่ใช่ เพราะเรื่องนี้ถือว่าได้มีการเผยแพร่ออกมาแล้ว และจะนำเป็นสู่การเข้าข่ายการหาเสียงที่ผิดกฎหมายตามกฎเหล็ก 180 วัน ที่ กกต. ได้ออกประกาศไว้ เรื่องนี้เข้าข่ายผิดทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบ ถ้าผิดจริงเรื่องนี้ ส.ส. จะได้รับโทษตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติและร้องทุกข์กล่าวอะไรหรือไม่นั้น ก็ทำได้ แต่นายสายัณห์ที่ออกมาปฏิเสธนั้น ตนมองว่าไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ส่วนที่ กกต. ออกมาระบุว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงนั้นตนเองก็ได้ยินมา แต่เชื่อว่าทาง กกต. อาจจะยังไม่มีต้นเรื่องของเรื่องนี้ ตนจึงได้นำต้นเรื่องมาให้ กกต. ด้วยการมายื่นเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป