“ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” พร้อมเปิดศึก สนามเลือกตั้ง “เมืองคอน” นครศรีธรรมราช พลังประชารัฐ ป้อแป้ เมื่อ “ลุงตู่” ตีชิ่งไป รวมไทยสร้างชาติ ทำให้การเมืองในโค้งสุดท้ายคึกคักมากขึ้น
พลันที่พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว 8 ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ประกาศลั่นพร้อมสู้ทั้ง 9 เขต หวังปักธงอย่างน้อย 3 เขต ก็ต้องมีการเช็คสนามกันอีกรอบ เช็คความพร้อมของแต่ละพรรค
“นครศรีธรรมราชไม่เงียบนะ” เป็นคำตอบ มาจาก ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ รองเลขาธิการพรรค ก่อนหน้านี้ ซึ่งเปิดตัวผู้สมัครไปแล้ว 8 เขตเช่นกัน
8 คนที่ประชาธิปัตย์ ได้ตัวผู้สมัครแล้ว เป็น ส.ส.ปัจจุบัน 4 คน และ เลือดใหม่ 4 คน ประกอบด้วย…
ส.ส.3 คน ประกอบด้วย ชัยชนะ เดชเดโช, ชินวรณ์ บุณยเกียรติ์, ประกอบ รัตนพันธ์ ส่วน พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ขอลาออกไปสังกัด รวมไทยสร้างชาติ ซึ่งใครลงเขตไหนยังระบุชัดไม่ได้ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งออกมา
ส่วนเลือดใหม่ 5 คน ประกอบด้วย ราชิต สุดพุ่ม, พิทักษ์เดช เดชเดโช, อวยพรศรี เชาวลิต, ยุทธการ รัตนมาศ และ ลูกสาวคนเล็กของ “ชินวรณ์”โซนหัวไทร ชะอวด เชียรใหญ่ ทำโพลล์เสร็จ “ยุทธการ” ชนะ พงศ์สิน เสนพงศ์ น้องชายของ เทพไท เสนพงษ์ โดย ยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นป้ายแนะนำตัวเต็มเขตเลือกตั้งแล้ว ส่วน “พงศ์สิน” เคยลงสมัครเมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อม เขต 3 คือพื้นที่โซนนี้แหละ แต่แพ้ให้กับ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ส่ง ก็จำเป็นต้องหาที่ยืนใหม่ สุดท้ายก็ไปลงที่รวมไทยสร้างชาติ
ไม่ว่าจะเป็น “พงศ์สิน” หรือ “ยุทธการ” ในมุมมองของ #นายหัวไทร เชื่อว่า มีฐานเสียงเดียวกัน คือ โซนชะอวด ฐานเสียงโซนหัวไทรจะเบาบางทั้งคู่“เรามีวิธีในการเรียกคะแนนจากประชาชน ขอให้สนามเลือกตั้งเปิดก่อน” เป็นคำยืนยันจาก ‘ชัยชนะ’
‘แทน-ชัยชนะ’ ยังเชื่อมั่นว่า เลือกตั้งครั้งหน้า ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน พรรคประชาธิปัตย์จะชนะยกจังหวัด 9 ที่นั่ง ภูมิใจไทย สู้เต็มที่ทุกเขต แต่ยืนอยู่บนความเป็นจริง ขอส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 3 เขต
การที่ภูมิใจไทย หวัง 3 เขต แปลความได้ว่า จะต้องไปแบ่งมาจาก ประชาธิปัตย์ และ พลังประชารัฐ เพราะภูมิใจไทยไม่มี ส.ส.นครศรีธรรมราชมาก่อน เหลืออีก 6 เขต ประชาธิปัตย์ กับ พลังประชารัฐ ก็ต้องไปสู้ส่วนแบ่งกัน ดูจากเนื้อผ้าแล้ว เชื่อว่า พลังประชารัฐ จะได้น้อยกว่าเดิม เพราะ “สายัณห์ ยุติธรรม” ไปกับลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจนแล้วว่า จะไปรวมไทยสร้างชาติ
ก็จะเหลือ ส.ส.เก่าพลังประชารัฐ ที่ปักหลักสู้อยู่กับพรรคเดิม คือ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ที่จะต้องประดาบกันหนักกับ “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าฯปัตตานี ที่ผันตัวเองมาใส่เสื้อสีฟ้าประชาธิปัตย์ ก็ไม่ใช่หมูในอวยแน่นอน
ส่วนตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย “ผู้การฯติ๊ก” ก็จะมาแย่งคะแนนไปได้ไม่น้อย กับ เครือข่ายศิษย์เก่า รร.เบญจมฯ ที่ทุกวันนี้ “ผู้การฯติ๊ก” นั่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าเบญจมฯ อยู่ด้วย ทราบว่า หลังจากลงคลุกพื้นที่ขยันเดินพบปะ คะแนนตีตื้นขึ้นมาไล่บี้ “รงค์-ราชิต”แล้ว ราชิตก็พยายามตีโอมล้อม “ป่าล้อมเมือง” เข้ามาประชิตรั้ว” ดร.รงค์” แล้ว อยู่ที่ว่า “ดร.รงค์” ยังจะลงเขตเหมือนเดิม หรือขึ้นบัญชีรายชื่อ ปัญหาของ “ดร.รงค์” คือคนใกล้ตัวลงแข่งหมดส่วน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ สองปีกับการเป็นผู้แทนยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ “ทุกคะแนนไม่สูญเปล่า” เครือข่ายเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้องเยอะ ช่วยได้มาก แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยช่วยให้ชนะการเลือกตั้งกระจัดกระจายกันไปหมดแล้ว จะทำให้ “อาญาสิทธิ์” มีปัญหาบ้าง และ ให้จับตาคนใกล้ตัวอย่างนายหัวอาจจะลงแข่งกับอาญาสิทธิ์ด้วย ก็จะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนายหัวคือ ผู้เกื้อหนุน “อาญาสิทธิ์” มาก่อน
เขตจุฬาภรณ์ ชะอวด ต้องไม่พลาดที่จะต้องกล่าวถึง “ณัฐกิตติ์ หนูรอด” ที่ลาออกจากราชในตำแหน่งปลัด อบจ.พัทลุง มาลงในนามภูมิใจไทย ฐานเสียงย่านควนเคร็ง ชะอวด ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียวสัญหพจน์ สุขศรีเมือง ที่พวกเขาฝ่าด่านมาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เอาชนะ “น้อย-วิทยา แก้วภารดัย” ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เป็นการ “ล้มช้าง” แต่ประเด็น คือ ไม่รู้ใครทำให้ “ช้างล้ม” แต่ 4 ปีกับการเป็นผู้แทน ก็พอมีผลงานอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย คนรู้จัก ดีกว่ามือใหม่หัดขับแน่นอน
โดยมือใหม่หัดขับอย่าง “มานะ ยวงทอง” นักธุรกิจ หันมาลงการเมืองในนามภูมิใจไทย ที่ช่วงแรกกระแสดี แต่ต้องจัดทัพ ปรับขบวนกันใหม่ถึงจะสู้ “สัญหพจน์” ไม่ได้ พรรคเองก็มีแรงส่ง มีผลงาน “พูดแล้วทำ” เขากำลังจัดทัพสู้เต็มที่เหมือนกัน ปัจจัยพร้อม กระสุนดินดำมี ถ้าได้ผู้สมัครที่มีชื่อชั้น อย่าง “อารี ไกรนรา” ส.ส.เพื่อชาติ ที่จะย้ายมาภูมิใจไทย เป็นลมใต้ปีกให้อีกแรง ก็พอหัดพอเหวี่ยงกับ “สัญหพจน์” แต่ต้องตั้งลำให้ดี หาทีมงานเชี่ยวๆมาช่วย
ส่วนประชาธิปัตย์ ส.ส.แทน คงจะประเมินในสถานการณ์ที่ “ชินวรณ์” และลูกสาวเลือดใหม่ ลงลุยสนามรักษาฐานที่มั่น ก็เชื่อว่า พอจะฟัดกันได้ อยู่ที่ว่า เขตลูกสาวชินวรณ์ จะต้องไปชนกับ “สุนทร รักษ์รงค์”จากพลังประชารัฐหรือไม่ ถ้าชนกับ “สุนทร” ก็หนักหน่อย สุนทรมีวิชาตัวเบา เครือข่ายชาวสวนยางไม่น้อยสนับสนุนแล้วยังมี สจ.มุก จากภูมิใจไทย มาลงแข่งอีกคน เมื่อ “สุนทร” จะต้องมาแบ่งคะแนนกับลูกสาวชินวรณ์ ให้ระวัง สจ.มุก จะเดินหน้าแซงได้เหมือนกัน ส่วน “ชินวรณ์” ไม่น่ากังวลอะไร แต่ให้ระวัง ประกอบ รัตน์พันธ์ ซึ่งคราวที่แล้วชนะ “ภูมิไทย ดีเป็นแก้ว”ไปแค่ 2000 คะแนน คราวนี้ “หมอภูมิไทย” ไปใส่เสื้อเจ๊หน่อย ไทยสร้างไทย
ยังมีคนรุมประกบอีกหลายคน เช่น สุธรรม จริตงาม จากพลังประชารัฐ โก้เช้า อดีต สจ.จากภูมิใจไทย ที่คะแนนดีวันดีคืน การจัดตั้งดี มีลมใต้ปีกเข้ามาหนุนช่วยไม่น้อย และยังมี “ถาวรวัฒน์ คงแก้ว” อดีตรองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช มาแบ่งคะแนนในนามสร้างอนาคตไทย ทำให้งานนี้”ประกอบ” ต้องสะท้าน
เขตท่าหลา “ท่าศาลา” ประชาธิปัตย์ส่ง “อวยพรศรี ชวลิต” อดีตประธานสภาอบจ.นครศรีธรรมราชลงสู้ศึก เขตนี้เดิม “สายัณห์ ยุติธรรม” จากพลังประชารัฐ เอาชนะ “สุรเชษฐ์ มาสดิตย์”จากประชาธิปัตย์มาได้ แต่แว่วมาว่า “สายัณห์” จะย้ายเขตไปลงโซนประชิดเมือง เพื่อเปิดทางให้ “อำนวย ยุติธรรม” น้องชายลงเขตนี้สู้กับ สจ.ศรี ภรรยานายกฯเอ ผู้มากบารมีแห่งท่าหลาแต่สำหรับเขตท่าศาลาให้จับตาหน้าใหม่ “หมอผึ้ง-นันทวัน วิเชียร” หญิงแกร่งที่หาญกล้าลงชนกับภรรยาขาใหญ่แห่งทาศาลา ถือว่าไม่ธรรมดา “หมอผึ้ง” ขยันขันแข็งลงพื้นที่โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อารี ไกรนรา ออกแรงสนับสนุนเต็มที่ และเป็นทีมที่เปิดศึกกับนายกฯเอมาแล้วเมื่อเดือนมีนาคม จนสะเทือนไปทั้งท่าศาลา
เหลือเขตปากพนัง ที่ยังไม่ชัดนัก แต่ “เท่ห์” พิทักษ์เดช เดชเดโช” น้องชายของ ส.ส.ชัยชนะ (แทน) ไปยืนรออยู่แล้ว ในนามประชาธิปัตย์ มี นนธิวรรติ์ นนท์ภักดิ์ จากรวมไทยสร้างชาติ มีน้ำ จากสร้างอนาคตไทย ที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่โดดเด่นพอ ภูมิใจไทย กำลังควานหาตัวดีมาลงสู้อยู่ ไม่เกินวันที่ 20 ธันวาคม จะเปิดตัวแน่นอน
ที่ยังต้องรอคือ “น้อย-วิทยา” จะลงเขตไหน จะลงเขต หรือ บัญชีรายชื่อ แต่ #นายหัวไทร ทราบว่าจะลงเขต เพื่อเอาคืน “สัญหพจน์” เขตนี้ก็จะสนุกขึ้นสำหรับคอการเมือง
ถึงวันนี้ยังไม่มีใครทายใจ “ลุงตู่”ได้ว่าจะอยู่ครบเทอม หรือ จะยุบสภาก่อน ถ้ายุบก่อน จะยุบช่วงไหน แต่การที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศแบ่งเขตให้ชัดเจน ทำให้การหาเสียงยุ่งยากลำบากมาก แต่ละคนที่จะลงสมัคร จึงยึดอำเภอหลักไว้ก่อน รอจนกว่า กกต.จะประกาศแบ่งเขตให้ชัดเจนถึงจะได้ลุยกันเต็มที่
ปี่กลองการเมืองรัวถี่ขึ้นแล้ว จับตาโค้งสุดท้ายนี้ ใครจะไปไหนไปอยู่กับใคร แต่ที่รู้ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล”สไลด์ตัวออกจากประชาธิปัตย์ เข้ารวมไทยสร้สงขาติแล้ว หลังไม่ได้รับสิทธิ์ลงเขต 4 จ.ตรัง
นายหัวไทร