เปิดภาพสุดท้าย ผู้ใหญ่บ้าน เจรจาผู้เห็นต่างให้มอบตัว ก่อนถูกยิงเสียชีวิต

จนท.เปิดภาพสุดท้าย เปิดภาพสุดท้าย “เจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง” ผู้ใหญ่บ้าน เจรจาผู้เห็นต่างให้มอบตัว ก่อนร่วมตรวจค้นบ้านแล้วถูกยิงจนเสียชีวิต เผยเป็นผู้เสียสละ ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียในพื้นที่

ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี เข้าปิดล้อมตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวหลบซ่อนเพื่อเตรียมการก่อเหตุ ในพื้นที่บ้านดอนรักจะรัง หมู่ที่ 7 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ นายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เสียชีวิต ส่วนนายมะนาเซ ไซร์ดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคง 7 หมาย ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ซึ่งการสูญเสียผู้นำท้องที่ ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลความปลอดภัยให้ในพื้นที่ พร้อมทั้งยังเป็นผู้นำที่ได้รับความนับถือและเป็นที่รักของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

สำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ เกิดจากหน้าที่และความรับผิดชอบที่ นายเจ๊ะมูหามะญากี ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ต้องการไม่ให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม โดย เจ้าหน้าที่ได้เผยภาพของ นายเจ๊ะมูหามะญากี ที่กำลังเจรจาให้คนร้ายที่หลบซ่อนตัวออกมามอบตัวเพื่อลดความสูญเสีย ซึ่งหลังจากนั้นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านแต่ละหลัง กว่า 10 หลัง

กระทั่งมาถึงบ้านหลังสุดท้าย คนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงออกมาจนถูกผู้ใหญ่บ้านบาดเจ็บสาหัส กระสุนปืนถูกขาขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปัตตานี ทำให้ญาติ และลูกสาวต่างรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ย.65 ญาตินำร่าง นายเจ๊ะมูหามะญากี มาประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้าน และทำการฝั่งศพที่กุโบร์บ้านดอนรัก เมื่อเวลา 9.00 น. ในขณะที่บรรยากาศที่บ้าน มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยพล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ และ ภาคประชาสังคม เดินทางมาให้กำลังใจ และมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมี น.ส.รอมียะห์ มูดอ อายุ 48 ปี ภรรยา พร้อมด้วย น.ส.รอยฮาน เจ๊ะเด็ง อายุ 25 ปี ลูกสาวคนโต และ น.ส.นารีมัน เจ๊ะเด็ง อายุ 21 ปี ลูกสาวคนเล็ก คอยดูแลงานศพในครั้งนี้

น.ส.รอยฮาน เจ๊ะเด็ง อายุ 25 ปี ลูกสาวคนโต เปิดเผยว่า ปกติพ่อเป็นคนทุ่มเทในการทำงาน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นไปแล้วก็ต้องยอมรับมันให้ได้ แต่ก็ภาคภูมิใจในตัวพ่อที่ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ถือเป็นวีรบุรุษสำหรับหนู และก็อีกหลายๆ คน และตอนนี้มีทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ และตัวหนูเองก็ต้องทำหน้าที่แทนพ่อ ต้องดูแลแม่และน้องสาวให้ดีต่อไป

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล กล่าวว่า ในการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ มีหลายหน่วยงานด้วยกัน ทั้งเยียวยาจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในส่วนของกองทัพบก ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปัตตานี และภาคส่วนอื่น ๆ พร้อมใจกันที่จะดูแล เพราะถือว่า นี้คือความเสียสละของผู้ที่ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่อยากให้เกิด เพราะทำให้เกิดความสูญเสีย ทุกฝ่าย และเป็นภาพที่ไม่ดีไม่ว่าจะเข้าใจกันหรือไม่เข้าใจกัน ก็อยากจะขอถือโอกาสตรงนี้ เชิญชวนทุกท่านหันมาทบทวนกันดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะอย่างนี้ มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับใครหรือไม่ กับการที่เรากลับมาสมัครสมานสามัคคี อยู่ร่วมกัน มีความสุขร่วมกัน ขอถือโอกาสนี้วิงวอน หันกลับมาทบทวน และมาช่วยกันทำให้บ้านเมืองเรามีความผาสุก และเจริญยิ่งขึ้นครับ

ด้าน พล.ต.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว การทำงานเราใช้ความร่วมมือในทุกภาคส่วน แม้กระทั่งครั้งนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านที่เสียสละ ก็เป็นการร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ เราไม่อยากให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่เราก็ต้องเดินหน้าในการสร้างความสามัคคี ตั้งแต่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เราต้องร่วมกันดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ทุกฝ่าย เพราะการสูญเสีย ไม่ว่าฝ่ายไหนก็จะมีแต่ความเสียใจทุกฝ่าย คงต้องใช้ความร่วมมือทุกฝ่ายรวมถึงประชาชน เสริมสร้างความเข้าใจ และหันหน้ามาสร้างความสามัคคีกัน เพื่อให้เกิดความสงบสุข

นายบาฮารุดดีน ยูโซะ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านถือว่าเป็นผู้ที่กล้าหาญ ทำเพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติ หลังจากนี้ ทางเราจะพิ่มมาตรการในการสร้างความเข้าใจให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการในการเข้าไปเคลียร์พื้นที่ ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งผู้ใหญ่เองก็คงไม่คาดคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ที่ดีที่สุดครับ

สำหรับครอบครัวของ นายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้าน มีสมาชิกในครอบครัว 3 คน โดยมี น.ส.รอมียะห์ มูดอ อายุ 48 ปี เป็นภรรยา และมีลูกสาว 2 คน คือ น.ส.รอยฮาน เจ๊ะเด็ง อายุ 25 ปี ลูกสาวคนโต และ น.ส.นารีมัน เจ๊ะเด็ง อายุ 21 ปี ลูกสาวคนเล็ก หลังจากต้องสูญเสียผู้เป็นพ่อ เสาหลักของครอบครัว ภาระหน้าที่ในการดูและต้องตกอยู่กับบุตรสาวคนโต ต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัวต่อจากผู้เป็นพ่อที่ต้องจากไปในครั้งนี้.