“ก้าวไกล”ดัน”สุราก้าวหน้า” ชูเป็นนโยบายหาเสียง รับแพ้เหลี่ยม “ผู้เฒ่าในทำเนียบ”

พรรคก้าวไกล แถลงหลัง ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า โดนคว่ำกลางสภา  “พิธา” ย้ำ ไม่เสียใจ เพราะเดินได้มาไกล ลั่น จะเอา “สุราก้าวหน้า” เป็นนโยบายหาเสียง “เท่าพิภพ” รับ แพ้เหลี่ยมการเมือง”ผู้เฒ่าในทำเนียบ”
วันที่ 2 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวหลังสภามีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ฉบับที่.. พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า 194-196 โดยนายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีกำลังใจดีไม่เสียใจ เพราะเราเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็ควรที่จะภูมิใจกับผลงานของเขา และควรที่จะยิ้มสู้อยู่ คนที่ร้องไห้ได้คนเดียวคือ นายเท่าพิภพ ก็คงจะต้องใช้โอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนส.ส. และประชาชนที่คอยให้การสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มาโดยตลอด แม้วันนี้เราจะยังไม่สามารถปลดล็อกความเลื่อมล้ำ แต่ก็ยังสามารถปักหมุดได้ในระดับหนึ่ง ในการเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกล ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ถ้าครั้งนี้ ส.ส.ยังไม่สามารถโหวตและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในรัฐสภา ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตูไปบานหนึ่งและเราต้องเปิดประตูบานใหม่ คือการเลือกตั้งที่จะถึง

“แน่นอนว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเป็นนโยบายที่เป็นเรือธงของพรรคก้าวไกล ซึ่งหากประชาชนชอบนโยบายนี้ก็ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และกราทลายกลุ่มทุนผูกขาด และในที่สุดก็จะไปปรับปรุงเค้าโครงด้านเศรษฐกิจใหม่ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการไทย และเกษตรกรไทยไปสู่เวทีโลกได้ ฉะนั้นขอยืนยันว่าเราเสียดายแต่ไม่เสียใจ ยังเข้มเเข็งและพร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อประชาชนให้มากขึ้น” นายพิธา กล่าว

ด้านนายเท่าพิภพ กล่าวว่า มันยากที่คนธรรมดาทำอะไร และจะมาไกลได้ขนาดนี้ ตนไม่เคยเชื่อในความมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์เท่าไร แต่วันนี้ก็ก็หวังลึกๆ ตั้งแต่ออกจากบ้านว่า จะมีเรื่องมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร ตนคิดเสมอว่าเรามาไกลขึ้น และวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่เรารอมา 6 ปี ก็ได้รู้อะไรบางอย่าง ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ตลอดช่วงเวลาที่ทำการเมืองมา เราอาจจะเสียร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่ไม่ผ่านไป แต่ตนเชื่อว่าสิ่งที่ได้มาในใจคือความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้น และประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มา จากการทำกฎหมายฉบับนี้ ก็ต้องขออภัยกับทุกคนที่อยู่นอกสภาและได้ฝากความหวังไว้กับตน ซึ่งจะขอโทษด้วยตัวเอง

“เขาได้หวังว่าผมจะมาเป็นตัวแทน และแก้ไขกฎหมายและก็ต้องกราบขออภัยที่ผมทำไม่สำเร็จ แม้จะเป็นตัวเลขเพียง 2 คะแนน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง แพ้ก็คือแพ้ แต่การแพ้แบบนี้ มันคือความเจ็บปวด ผมก็อยากจะรับไว้เอง ยิ่งใกล้มันยิ่งเจ็บ ฉะนั้นก็ไม่เป็นไรขอเศร้าแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าเราได้ทำอะไรไม่เต็มที่ และจะพยายามร่างกฎกระทรวง ที่เป็นของพรรคก้าวไกล ที่เราอยากเห็นว่ากฎกระทรวงมันควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบ ถ้าเรามีกฎกระทรวง ที่อยากให้แก่ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ออกกฎกระทรวงเช่นนี้มาฉะนั้นผมจะร่างเตรียมไว้เลย และจะเริ่มเคมเปญตั้งแต่เสร็จ และวันนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าทำไมต้องเลือกก้าวไกล ซึ่งทางการเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน ผมจึงมีความหวังว่าสุดท้าย ก็ต้องไปทางนั้น และเชื่อว่าไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าผมจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือกให้เป็นส.ส. แต่ก็จะมีเพื่อนๆ ก็จะมีอุดมการณ์ที่จะมาผลักดันเช่นกัน ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นส.ส. แต่สำหรับที่คนในพรรคมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อประชาชน ทุกคนอยากใช้คำว่าผู้แทนราษฎรได้เต็มปาก จริงๆเราไม่ได้เสียใจที่ไม่ผ่าน แต่เรารู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว” นานเท่าพิภพ กล่าว

ทั้งนี้หลังจากนายเท่าพิภพพูดจบ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ตบเบาๆที่แขนของนายเท่าพิภพ และกล่าวว่า “ไม่เป็นไรทำเต็มที่แล้ว” ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการลงมติได้ตั้งข้อสังเกตถึงเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไปหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่พวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว จากนั้นนายเท่าพิภพได้กล่าวแซวผู้สื่อข่าวว่า “ทำไมวันนี้ดูเศร้าๆจัง”