กรมการค้าภายใน สั่งสอบข้อเท็จจริงข้าราชการขายข้อมูลแก๊งคอลเซนเตอร์ ขีดเส้นให้เสร็จใน 5 วัน คาด 4 พ.ย.นี้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมสั่งให้ย้ายมาปฏิบัติงานที่ส่วนกลาง ลั่นถ้าพบผิดจริง มีโทษ คือ ปลดออกหรือไล่ออก และดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด
วันที่ 29 ต.ค.2565 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเแถลงข่าวด่วนผ่านระบบ Zoom ถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ และภรรยา เพราะมีการขายข้อมูลคนไทยให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า กรณีดังกล่าว ผู้บังคับบัญชา ทั้งนายกีรติ รัชโน รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มีความเป็นห่วงมาก และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก พร้อมกับสั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฎโดยเร็วที่สุด
สำหรับข้าราชการรายดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นข้าราชการกรมการค้าภายใน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในต่างจังหวัด ตนจึงได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีรองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน และให้ตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน คาดว่า ภายในวันศุกร์ที่ 4 พ.ย.นี้ น่าจะสามารถรายงานข้อเท็จจริงให้ตนได้รับทราบ พร้อมกันนั้น ได้สั่งให้ข้าราชการรายดังกล่าว ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่ส่วนกลาง หรือ ที่กรมการค้าภายใน สนามบินน้ำ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 พ.ย.นี้ โดยที่ไม่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบงานใดๆ ไปก่อน เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ถ้าผลตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการกระทำความผิดจริง ข้าราชการรายนี้ จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งทางอาญา ทางแพ่ง รวมถึงจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบลงโทษทางวินัยด้วย ถ้าพบว่า เป็นการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง จะมีโทษสูงสุด คือ ไล่ออก และจะไม่ได้รับบำเหน็จ บำนาญใดๆ ”
นายวัฒนศักย์ ยืนยันว่า กรมการค้าภายใน จะให้ความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจ และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือปปท. และเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด รวมถึงหากมีข้าราชการคนอื่นของกรมสมรู้ร่วมคิดด้วย ก็จะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม และเอาผิดกับทุกคนที่กระทำความผิด เพราะถือว่า เป็นการกระทำที่รับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำกบข้าราชการทุกคนในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต