“ยะหรี ดือเลาะ” หรือ “ซาฮารี บิน อับดุลลา” สมาชิกลุ่ม บีอาร์เอ็น ถูกอุ้มฆ่า ลอยเป็นศพกลางลำน้ำโกลก สภาพศพสมาชิก ถูกทรมานอย่างหนัก ทำให้กลุ่มบีอาร์เอ็นตั้งคำถามถึงกระบวนการสันติภาพ ชี้มีปัญหาความไม่ไว้วางใจ
บีอาร์เอ็นได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมาระบุว่าผู้เสียชีวิตคือยะห์รี ดือเลาะหรือซาฮารี บิน อับดุลลา วัย 42 ปี เป็นสมาชิกของกลุ่ม เขาถูกนำพาตัวจากในมาเลเซียเมื่อวันที่ 27 ก.ย. จากเมืองรันเตาปันยังซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนมาเลเซีย- ไทย ต่อมาถูกสังหารอย่างโหดร้ายเห็นได้จากบาดแผลที่คอและบนร่างกาย ศพของยะห์รีลอยขึ้นมาตามกระแสน้ำในแม่น้ำสุไหงโกลกในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
แถลงการณ์ดังกล่าวที่ออกในนามของอับดุล การิม คาลิด โฆษกกลุ่มบีอาร์เอ็นยังประนามความรุนแรงอีกหลายเรื่อง เช่นนอกจากการอุ้ม ฆ่า จับกุมควบคุมตัวที่ละเมิดกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงการบังคับจัดเก็บดีเอ็นเอจากเยาวชนและเด็ก โดยแถลงการณ์ระบุว่า เหตุการณ์ต่างๆรวมถึงการสังหารนายยะห์รีที่เป็นเหตุการณ์ล่าสุดได้ลดทอนความเชื่อมั่นไว้วางใจต่อกระบวนการสันติภาพ ซึ่งกำลังมีการพูดคุยระหว่างรัฐบาลและกลุ่มบีอาร์เอ็นที่จะเข้าสู่รอบที่ 6 แถลงการณ์เรียกร้องว่า ต้องยุติการละเมิดต่างๆดังกล่าวมาทั้งหมดเพื่อจะปูทาง “ที่ปลอดภัยและยั่งยืน” ให้กับการสร้างสันติภาพในพื้นที่
เนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวกับการสร้างสันติภาพนั้น แถลงการณ์ฉบับนี้ระบุว่า บีอาร์เอ็น “ต้องการข้อตกลงทางการเมืองที่มีศักดิ์ศรี ที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและแท้จริง อย่างไรก็ตาม เป็นเวลาเกือบสามปีมาแล้ว ที่ผู้นำและตัวแทนบีอาร์เอ็น ทั้งที่อยู่ในและนอกประเทศต่างยังไม่ได้รับหลักประกันในเรื่องความปลอดภัยหรือการคุ้มครองไม่ดำเนินคดี” และว่าในเวลานี้จึงมีคำถามใหญ่ว่า “ตัวแทนบีอาร์เอ็นจะดำเนินการในเรื่องการหารือสาธารณะอย่างไรหากยังไม่มีการให้หลักประกันในเรื่องความมั่นคงและปลอดภัย”
Benar News รายงานอ้าง นายอานัส อับดุลเราะมาน หัวหน้าคณะพูดคุยของบีอาร์เอ็น ยืนยันเรื่องนายยะห์รีเป็นสมาชิกกลุ่ม พร้อมกับระบุว่า การพิสูจน์ทราบตัวตนของยะห์รี ต้องใช้การตรวจดีเอ็นเอยืนยัน ข่าวของเบนาร์นิวส์ยังมีรายละเอียดว่าเขาถูกกลุ่มบุคคลใช้รถสามคันเข้าอุ้มตัว ขณะที่ศพของเขาส่อเค้าถูกกระทำอย่างรุนแรง มีทั้งร่องรอยที่อาจเป็นการช็อตด้วยไฟฟ้าและการรัดคอ นายอานัสกล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่าคิ้วข้างหนึ่งของยะห์รีหายไปรวมทั้งหูข้างหนึ่ง เสื้อผ้าที่สวมใส่ผิดไปจากชุดที่ใส่ในวันนั้นและยังใส่นาฬิกาที่ไม่ใช่ของตนเองด้วย
ก่อนหน้านี้สำนักสื่อ Wartani รายงานข่าวไว้ว่าศพของนายยะห์รีที่พบในแม่น้ำสุไหงโกลกเมื่อ 3 ตค.ส่อสภาพการถูกทำร้ายจนญาติจำแทบไม่ได้ เขาถูกโกนหัวและอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของตนเอง รายงานระบุด้วยว่า นายยะห์รีถูกลักพาตัวโดย “การปฎิบัติการร่วมของบุคคลไม่ทราบฝ่ายสองประเทศ”
ขณะที่แถลงการณ์ในนามโฆษกกลุ่มประนามการสังหารและการใช้ความรุนแรงว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ แต่เบนาร์นิวส์อ้างอานัส อับดุลเราะมานที่เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยของกลุ่มกล่าวว่าเขาเองยังไม่ชัดเจนว่าการสังหารยะห์รีเป็นฝีมือใครและไม่แน่ชัดด้วยว่าต้องการอะไร อีกด้านเบนาร์นิวส์ก็อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลไทยยืนยันว่าไทยไม่ได้ทำ แต่เปิดเผยว่ายะห์รีเคยถูกควบคุมตัวสอบปากคำมาแล้วก่อนที่จะเดินทางไปมาเลเซีย เบนาร์นิวส์อ้างแหล่งข่าวจนท.ไทยสงสัยว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือคนภายในบีอาร์เอ็นที่ไม่ต้องการเห็นการพูดคุยสันติภาพ
ข่าวของเบนาร์นิวส์ยังอ้างแหล่งข่าวอีกแหล่งที่ใกล้ชิดกับบีอาร์เอ็นระบุว่ายะห์รีเป็นหัวหน้ากลุ่มยุวชนของบีอาร์เอ็นในนราธิวาสและอาศัยอยู่ในมาเลเซียมาได้สองสามปีแล้ว
ข่าวการอุ้มฆ่าจากฝั่งมาเลเซียถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปรากฎต่อสาธารณะ แม้จะมีรายงานข่าวบางแหล่งระบุว่าเคยมีการอุ้มในลักษณะใกล้เคียงกันนี้เกิดขึ้นมาแล้ว เหตุการณ์อุ้มฆ่านายยะห์รีนับเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่มความตึงเครียดให้กับพื้นที่เป็นกรณีล่าสุดจากที่ก่อนหน้านี้มีเหตุรุนแรงและการกดดันการใช้เสรีภาพในการแสดงออกมาแล้วหลายเรื่องในขณะที่อีกด้านการพูดคุยของทั้งสองฝ่ายยังคงเดินหน้าแต่ในสภาพที่ผสมผสานไปด้วยสภาพที่ไม่มีความคืบหน้าบวกกับการเลื่อนการพบปะทั้งนี้ภายใต้การอำนวยความสะดวกของมาเลเซีย