มติศาลรธน.7- 2 สั่งยุบ “ไทรักธรรม” ห้ามกก.บริหารพรรค เล่นการเมือง10ปี

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7-2 เสียงสั่งให้ยุบ “พรรคไทรักธรรม” เซ่นปมดอกไม้จันท์ และตัดสิทธิทางเมือง “พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” หน.พรรค และ กรรมการบริหารพรรค 10 ปี

วันที่ 19 ต.ค.65 เวลา 15.00 น. ที่ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยในคำร้อง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทรักธรรม และ ตัดสิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี จากกรณีการจูงใจให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ด้วยการตั้ง กลุ่มประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ โดยกำหนดเงื่อนไข ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมก่อน หากสมัครครบ 500 คนขึ้นไป ก็สามารถเปิดสาขาพรรคได้ พรรคจะเป็นผู้ลงทุนออกค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดให้แก่สมาชิกพรรค และ ส่งดอกไม้จันทน์มายังสาขาพรรคที่จังหวัดพิจิตร โดยพรรคจะรับซื้อดอกไม้จันทน์จากชาวบ้านคืน ในราคาดอกละ 1 บาท โดยผู้สมัครสมาชิกพรรคไม่เสียค่าสมาชิกและค่าบำรุงพรรค เนื่องจากพรรคจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

ทั้งนี้ จากการสอบพยานจะเห็นได้ว่า ผู้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ศรัทธาพรรค แต่มุ่งหวังได้เงินจากการทำดอกไม้จันทน์ ไม่ได้มุ่งหวังจากการเข้าร่วมทำกิจกรรมพรรคการเมือง อีกทั้งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง

ส่วนข้อโต้แย้งจากพรรค นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม และ กรรมการบริหารพรรครวม 5 คน โดย ระบุว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมอาชีพของชาวนา โดยพรรคไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ หรือ รับซื้อดอกไม้จันทน์ไว้เอง และไม่เคยจูงใจ หรือ สั่งการให้บุคคลสมัครเป็นสมาชิกพรรค และไม่เคยสั่งการให้ใครสำรองเงินออกไปก่อน ซึ่งแม้หัวหน้าพรรค เคยให้ข้อมูลว่า ได้รับคำแนะนำจาก กกต. ว่าการสมัครสมาชิกพรรคในลักษณะดังกล่าวไม่สามารถทำได้ จึงยุติก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า เคยซื้อดอกไม้จันทน์จากสมาชิกไปเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง

ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ยุบพรรคไทรักธรรม และ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน 2561 ถึงเดือนมกราคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค ตามพรป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคสอง มีกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และห้ามกรรมการบริหารพรรคไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือ เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

มีรายงานว่า ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทำให้นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในทันที โดยในการมาฟังคำวินิจฉัยในวันนี้ นายพีระวิทย์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำวินิจฉัย แต่ได้มอบหมายให้นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ เป็นตัวแทนมารับฟัง และ เมื่อฟังคำวินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้วก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยเดินทางกลับทันที