1.มือของศัตรูอยู่ที่ไกปืนตลอดเวลา พวกเขาจะลั่นไกอย่างระมัดระวัง และเล็งเป้าไปที่ถนนและจะยิงในโอกาสที่เหมาะสม
2.พวกเขาจะก่อเหตุยิงเมื่อไหร่? อะไรคือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเป้าหมายของพวกเขา? จากประสบการณ์ 3 วิกฤตที่ผ่านมา แสดงว่า ช่วงเวลาลั่นไกที่ดีที่สุดคือ ช่วงเวลาที่ทุกอย่างสงบ! เป้าหมายของพวกเขา:
: อำนาจของประเทศอิหร่าน
: ความมั่นคงของอิหร่าน
: สวัสดิการของชาวอิหร่าน
: ความก้าวหน้าของอิหร่าน อิสลาม
3.ศูนย์กลางของการสมคบคิดแผนชั่วต่ออิหร่านคือ วอชิงตัน ผู้ก่อการสมคบคิดต่อต้านอิหร่านในโลกคือ อังกฤษ และตัวแทนของการสมรู้ร่วมคิดกับอิหร่านในภูมิภาคนี้คือ ระบอบไซออนิสต์ ประเทศทั้งสามนี้ ที่คนของเราส่งคำสาปแช่งและประณามพวกเขาในมัสยิดและในการละหมาดทุกวันและขอให้พวกเขาพินาศ
4.ขอพระเจ้าทรงสาปแช่ง นายเบอร์นาร์ด ลูอิส ผู้ออกแบบและวางแผนแห่งการแบ่งแยกอิหร่าน เขากล่าวว่า: “อิหร่านที่กว้างใหญ่และแข็งแกร่ง เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของนายทุนตะวันตก ควรถูกแยกย่อยออกเป็นหกส่วน: เติร์ก เคิร์ด ลอร์ อาหรับ บาลุจญ์ และฟาร์ส หรือควรผนวกดินแดนเพื่อนบ้านเพื่อสกัดกั้นภัย อันตรายจากอิหร่าน
ข้อเท็จจริงที่ว่าในการยุยงปลุกปั่นครั้งล่าสุด พวกเขาเริ่มจุดไฟเผาธงชาติ และทำให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเข้ามามีส่วนร่วมในการก่อหวอด มันเป็นการกระทำตามเจตจำนงของเบอร์นาร์ด ลูอิส
5.ปรัชญาเบื้องหลังการก่อความไม่สงบครั้งล่าสุดและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องของเหตุการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาคือ มีการออกคำสั่งในวอชิงตัน ไปถึงห้องสื่อมวลชนในลอนดอน คำสั่งนั้นก็คือ “ออกไปโดยไม่มีข้อแก้ตัวและข้ออ้างใดๆ จงจุดไฟทุกอย่าง”
เหตุผลในการออกคำสั่งนี้คือ การปฏิวัติอิสลามกำลังเข้าสู่ก้าวที่สองของการเสริมสร้างอารยธรรมอิสลามภายใต้การปกครองของประธานาธิบดี ซัยยิดอิบรอฮีม ระอีซี และได้บรรลุความสัมพันธ์กับโลกอย่างรวดเร็ว ก้าวผ่านการคว่ำบาตร และนับวันยิ่งมีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นไม่ว่าด้วยค่าใช้จ่ายใด ๆต้องทำลายสิ่งนี้ให้ได้ และจุดไฟเผาสัญลักษณ์แห่ง “ความปลอดภัย” “สวัสดิการ” และ “อำนาจ” ของประเทศอิหร่าน
6.เจ้าของคำสั่งที่ก่อให้เกิด “ความวุ่นวาย” “ความโกลาหล” และ “การจลาจล” กล่าวว่า อิหร่านไม่ควรอวดอำนาจและแผ่อิทธิพลใน 80 ประเทศด้วยภูมิศาสตร์ทางการเมืองและวัฒนธรรม บทเพลงผู้มาโปรด (สลามฟัรมอนเดห์-สลามแด่ผู้บังคับบัญชา) และมหกรรมเดินเท้าอัรบะอีนที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 20 ล้านคน จากเส้นทางนาญัฟ-กัรบาลา ดังนั้นควรทำลายภาพเหล่านี้ด้วยการเผาอัลกุรอาน สุเหร่า ธงชาติอิหร่าน และสังหารผู้คนอย่างไร้ความปราณีตามท้องถนนและตลาด
เราอยู่ท่ามกลางสงครามสื่อระดับโลกในช่วงสิบวันที่ผ่านมา เฉพาะบน Instagram เท่านั้น ในช่วงแปดวันแรกของการก่อจลาจล เราต้องเผชิญกับข้อความ 14,000 ครั้งและการโกหก 340 ครั้ง โดยมีโพสต์และรีโพสต์มากถึง 15 ล้านรายการ
7.ประชาชนชาวอิหร่านออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ตั้งแต่หมู่บ้านไปจนถึงเมืองใหญ่และเมืองเล็กหลายต่อหลายครั้ง และได้ขัดขวางแผนการปลุกระดมและความโกลาหลของมหาอำนาจผู้อหังการโลก และการสมรู้ร่วมคิดนี้ก็ถูกขัดขวางในบัดดลด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด
8.กองกำลังรักษาความปลอดภัย ตุลาการสืบสวน การจับกุมสมุนรับจ้างของศัตรูและปล่อยตัวผู้ที่ถูกหลอก หัวหน้าและตัวบงการที่เป็นสมุนรับใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยของ CIA, Mossad และ MI6 ถูกจับกุมตัวโดยกองกำลังตำรวจ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ (IRGC) และกองกำลังอาสาสมัคร พวกเขาจะได้รับบทลงโทษทางกฎหมาย
9.ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติได้เปิดเผยถึงแผนการสมรู้ร่วมคิดนี้ในสองสามประโยคและกล่าวว่า: “การก่อเหตุจลาจลถูกวางแผนไว้อย่างดี ศัตรูเป็นปฏิปักษ์กับหลักการของอิหร่านที่แข็งแกร่งและเป็นอิสระ ศัตรูไม่สามารถทนต่อความก้าวหน้าของประเทศอิหร่านได้ การต่อสู้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอิสระ อำนาจ และความก้าวหน้าของประเทศ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของเด็กสาวคนนี้ พวกเขาก็จะหาข้ออ้างอื่นๆที่จะทำให้ประเทศไม่ปลอดภัย ”
10.ศัตรูมีปัญหากับหลักการของระบบอิหร่านที่เป็นเอกภาพและเป็นอิสระ กับอัลกุรอานและอิสลาม และได้ตั้งเป้าหมายไว้ อะไรคือวิธีที่จะทำให้ศัตรูเสียใจ? ด้วยการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งในที่เกิดเหตุ ประเทศอิหร่านได้ทำลายวิกฤตทั้งสี่ของศัตรู ทั้งในสงครามเย็น สงครามข้อมูลความจริง และสงครามการรับรู้ และยังได้ทำลายเป้าหมายของศัตรูอีกด้วย เมื่อศัตรูไร้ความยางอายและไร้สำนึกกล่าวว่า:
– การเลือกตั้งเป็นเพียงข้ออ้าง หลักการของระบบคือเป้าหมาย
– การเจรจานิวเคลียร์เป็นข้ออ้าง หลักการของระบบคือเป้าหมาย
– ราคาน้ำมันเป็นข้ออ้าง หลักการของระบบคือเป้าหมาย
– มาฮ์ซา อามินี เป็นข้อแก้ตัว หลักการของระบบคือเป้าหมาย
ด้วยข้ออ้างเดียวกันนี้ เราต้องอธิบายให้ศัตรูฟังว่า ความโกลาหลในอิหร่านก็เป็นเพียงข้ออ้าง หลักการปกครองในภูมิภาคและโลกคือเป้าหมาย
ความเข้าใจนี้ไม่ควรเป็นแค่สโลแกน แต่ต้องสู่ภาคปฏิบัติ ไม่ควรเป็นแค่ “แถลงการณ์” แต่ต้อง “ปฏิบัติ”อย่างจริงจัง
การลงโทษผู้กระทำความผิด แกนนำ และผู้วางแผนของการปลุกระดมจลาจลนี้ ในกระบวนการทางกฎหมายควรได้รับการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้สมุนรับจ้างของศัตรูชำระค่าใช้จ่ายด้านวัตถุและจิตวิญญาณของการปลุกระดมและการจลาจลในเวลาเดียวกัน
