นักธุรกิจห่วง “บิ๊กตู่” อยู่ครึ่งเทอม การเมืองป่วน ฮือประท้วง เชื่อยุบสภา หลังเอเปค

นักธุรกิจ ภาคเอกชน ระบุ หลังศาลรธน.ไฟเขียวให้ “บิ๊กตู่” ได้ไปต่อ ส่งผลกระทบต่อการเมืองแน่ จุดชนวนก่อม็อบ ลุกฮือประท้วง แต่คงไม่รุนแรง เชื่อ นายกฯจะยุบสภาหลังจบประชุมเอเปค นักลงทุนรอรัฐบาลใหม่

วันที่ 1 ต.ค.2565 นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าป็นการชนะในชั้นศาล แต่ในทางการเมืองจะไปต่อก็ค่อนข้าวจะลำบากมากขึ้น เพราะชาวบ้านนับ 8 ปี ตั้งแต่รัฐบาล คสช.เข้ามา ประเมินว่าหลังผ่านการประชุมเอเปคไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯแคนดิเดตก็ลำบาก เพราะเหลือเวลาแค่ 2 ปี เชื่อว่าประชาชนก็จะไม่เลือก

ส่วนในทางเศรษฐกิจนั้น เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ก็ดูแลเศรษฐกิจด้วย ปัจจุบันเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีขึ้น ยังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ เผชิญสารพัดปัจจัยลบ เงินเฟ้อ ค่าบาทอ่อน หนี้ครัวเรือนสูง งบประมาณขาดดุล ส่วนการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวดี ขณะที่การส่งออกยังมีแนวโน้มการขยายตัวไม่ชัดเจน “พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบนี้แม้จะระยะสั้นๆ จะเผชิญกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจยุ่งเหยิงมากขึ้น และต่างชาติจะมีความเชื่อมั่นลดลง จะชะลอการลงทุนไปถึงปี 2566 หลังจากมีการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่แล้ว” นายศานิตกล่าว

ด้าน นายนิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ “แกมโบล” (GAMBOL) กล่าวว่า ผลออกมา ก็คงต้องยอมรับคำตัดสิน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อก็เหลือเวลาทำงานไม่กี่เดือน เพราะจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2566 และคงไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจทรงตัวมาเป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว ขณะที่ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวรายได้หลักของประเทศยังไปได้ การส่งออกยังเติบโต และได้อานิสงส์จากค่าบาทอ่อน ส่วนการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากยอดนักท่องเที่ยวที่เริ่มเข้ามามากขึ้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่อก็ไม่มีผลอะไร แต่อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติจะมาลงทุนในไทยชะลอออกไป รอมีรัฐบาลใหม่

นายนิติกล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่คนทำธุรกิจกำลังกังวลและหนักใจมากที่สุดคือภัยธรรมชาติ พายุน้ำท่วม วิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตสงครามรัสเซียกับยูเครน ยังไม่รู้จะมีการเพิ่มดีกรีความรุนแรงส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอีกหรือไม่ เพราะผลดังกล่าวกระทบต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น จากราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย จะมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนของภาคธุรกิจว่าจะต้องชะลอหรือเดินหน้าต่อตามแผน “บรรยากาศการเมืองบ้านเราเป็นแบบนี้มานานหลายปี ก็ต้องยอมรับสภาพจนกว่าจะมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ ก็อาจจะมีการประท้วงบ้าง แต่คงไม่รุนแรง เพราะอีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือกตั้งแล้ว” นายนิติกล่าว