ภท. เปิดตัว ผู้สมัคร สส.”เมืองขอนแก่น” ชูนโยบาย “เว้าแล้วเฮ็ด”มัดใจคนอีสาน

เว้าแล้วเฮ็ด ! “อนุทิน” เปิดตัวผู้สมัครขอนแก่น ย้ำ ภูมิใจไทย ไม่ลืมประวัติศาสตร์ เติบโตได้ เพราะคนอีสานหนุน พร้อมปล่อยนโยบายสุขภาพ ทุกจังหวัด ต้องมีเครื่องฉายรังสี 1 อำเภอ 1 ศูนย์มะเร็ง ลดอัตราเสียชีวิตผู้ป่วย

วันที่ 23 ก.ย. 2565 ที่ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น บรรยากาศการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนกว่า 5 พันคนร่วมกิจกรรม โดยทันที ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ คณะผู้บริหารมาถึงได้มีกลุ่มชาวบ้านที่สนับสนุน ให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ มาให้กำลังใจ จากนั้น นายอนุทิน และคณะผู้บริหาร และ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางทักทายประชาชน ก่อนจะดำเนินพิธีการ ซึ่งรวมไปถึงการเสวนา รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่นายอนุทิน ตอนหนึ่งบนเวทีว่า พรรคภูมิใจไทย เราเติบโตขึ้น วันนี้ เรามีผู้แทนปวงชนอยู่ทั่วประเทศ แต่เราไม่ลืมว่า เราเกิดจากการสนับสนุนของชาวอีสาน นั่นคือบุญวาสนาของพรรคภูมิใจไทย ยิ่งเราได้รับใช้พี่น้องประชาชนมากเท่าไร ก็เพราะเรามีบุญวาสนามากเท่านั้น การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราไม่ต้องการความขัดแย้ง ไม่อยากเห็นความแตกแยก เห็นต่างได้ แต่ต้องมีเหตุผล หลักการทำงานของพรรค คือ พูด แล้ว ทำ เพราะภูมิใจไทยคือพรรคปฏิบัติการ ภาษาอีสานคือ เว้า แล้ว เฮ็ด“ก่อนที่จะได้มายืนบนเวที ได้สัมผัสมือของชาวบ้าน ท่านบีบมือผม และสื่อว่า ท่านต้องการความช่วยเหลือจากเรา มันสื่อถึงผม และผมจะนำความปรารถนานั้น มาใส่ไว้ในหัว พลังของประชาชน คือ เกราะคุ้มกบาลกระผม ผมทำอะไร ไม่เคยกลัว มีแต่ความกล้า เพราะประชาชน สนับสนุนผมอยู่ อยากให้ผมทำให้ท่านกินดีอยู่ดี มีบางคนมาบอกผมว่า เรื่องนโยบายกัญชา อย่าเพิ่งล้มเลิก ผมไม่เลิกแน่นอน มีแต่จะไปต่อ มาถึงขนาดนี้ มันถอยไม่ได้ ไม่มี พ.ร.บ. ก็มีกฎหมายอื่นกำกับ”นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายให้ กยศ.เป็นกองทุนไม่ดีดอกเบี้ย และค่าปรับว่า ขณะนี้ พรรคผลักดันจนผ่านชั้นการพิจารณาของ ส.ส.แล้ว เหลือแต่ชั้น ส.ว.บางคนบอกว่า จะทำให้คนไทย ไม่มีวินัย แต่พรรคมองมุมต่าง ว่าการศึกษา เป็นการลงทุน สำหรับอนาคตของประเทศ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านสุขภาพว่า“เรื่องของสุขภาพ พรรคภูมิใจไทย ให้ความสำคัญ ในอนาคต จะต้องจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งมาติดตั้งไว้ในทุกจังหวัด เราจะมีศูนย์ฟอกไตในทุกอำเภอ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทาง ไปจนถึงเพิ่มคุณภาพชีวิต ให้กับผู้ป่วย และครอบครัว ซึ่งจะทำให้เราสามารถลดอัตราการเสียชีวิต จากการเจ็บป่วยด้วยโรคนี้ ในส่วนของการคมนาคมขนส่ง จังหวัดขอนแก่น จะต้องมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงผ่าน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่”รวมถึงนโยบายด้านอื่น เช่น 1.การให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้ 2.จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัทที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่าย อย่างน้อยร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนา แก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้ว ได้รู้ว่าภาษีของตัวเองเอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร นอกจากนี้จะมีนโยบายที่3.ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ “การไฟฟ้าประชาชน” ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือช่วยให้รัฐบาลลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ และ 4.พัฒนาอสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.สำหรับผู้สมัครส.ส.ขอนแก่นพรรคภูมิใจไทย จำนวน 8 คน ได้แก่ นายฐิตินันท์ แสงนาค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 1 , นายวัฒนา ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 2, นายเอกราช ช่างเหลา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต 4, นายวิศรุต ปู่เพ็ง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต 6, นายปริญญ์ ศรีภักดี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต 7, นายศุรศักดิ์ ไทรน้อย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต 8, นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต10 และนายเจริญ แซ่เต็ง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่น เขต 11