สตช. แถลง! คนร้ายลอบบึ้มพื้นที่นราธิวาส รถทหารพรานเสียหาย 1 คัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่นราธิวาส มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่อาสาทหารพรานได้รับความเสียหาย 1 คัน ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ในพื้นที่นราธิวาส ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงรถยนต์เจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย ดังนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 07.30 น.ของวันที่ 12 กันยายน 2565 ทาง สภ.ศรีสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่อาสาทหารพรานได้รับความเสียหาย บริเวณริมถนนสายบ้านไอร์กือเดร์ ม.4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จว.นราธิวาส ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป

เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยในเบื้องต้นมีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่อาสาทหารพรานได้รับความเสียหาย จำนวน 1 คัน

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง