“อนุทิน ชาญวีรกูล” แจงเหตุผล พรรค “ภูมิใจไทย” ร่วมรัฐบาล “พลังประชารัฐ” ปี 2562 นับเลขแล้ว ขั้ว “เพื่อไทย” ไม่มีโอกาสตั้งรัฐบาล ยิ่งยื้อนาน คสช. ก็ยิ่งอยู่ยาว !
วันที่ 10 ก.ย. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ตอบคำถามเหตุผลที่ร่วมรัฐบาลกับ พรรคพลังประชารัฐเมื่อปี 2562 แต่ล่าสุด พรรคกลับยกมือหนุนกฎหมายปิดสวิตช์ ส.ว. ว่า ขอย้อนกลับไปในปี 2562 ตนยึดหลักว่า ถ้าตั้งรัฐบาลต้องทำให้สำเร็จ ถ้าทำไม่สำเร็จ มันไม่มีประโยชน์ ส่วนที่มีคนมาบอกว่าตนเคยประกาศไม่เอา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอเรียนว่าไม่เคยพูด สิ่งที่บอกคือ พรรคภูมิใจไทย จะไม่ยอมร่วมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือ หมายความว่า ได้เสียง ส.ส.ข้างน้อย แต่ไปเอาเสียง ส.ว.มาเติมแล้วได้นายกฯ แบบนั้น เราไม่ไปร่วม การตั้งรัฐบาล ต้องได้เสียงในสภาเกินกว่า 375 เสียง
แล้วให้ย้อนกลับไปวันนั้น เอาทุกพรรคไปรวม โดยไม่มี พรรคพลังประชารัฐ และ บางพรรคที่มีเจตนามาแล้วว่าจะชู พลเอกประยุทธ์ คำตอบคือ มันไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ต่อให้รวม พรรคภูมิใจไทย ก็ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ จากนั้น ให้ไปดูกฎหมายที่เขียนไว้ชัด ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ คสช.อยู่ชั่วฟ้าดินสลาย เป็นรัฐบาลต่อยาวๆ จน รัฐบาลใหม่เข้ามา การที่ตนเซย์เยสวันนั้น เท่ากับ วงจร คสช.จบ เท่ากับมีรัฐบาลในระบบรัฐสภา อย่างน้อย ทำให้มีสภาฯ มาตรวจสอบรัฐบาล ผู้มีอำนาจต้องกลับมาฟังเสียงพี่น้องประชาชนแล้ว พรรคภูมิใจไทยมองมุมนี้
อีกฝ่ายมองมุมเดียว ก็บอกว่าพรรคไปสนับสนุนทหาร ไปสนับสนุน คสช. แต่ทุกอย่างที่ทำ คือปฏิบัติตามเกม แล้วทำให้ คสช.หลุดไป กลายเป็นการเมืองในระบอบสภาปกติ ถ้าเราเห็นดีเห็นงามกับ คสช.มากมาย เหมือนที่หลายคนมาโจมตี ตนและพรรคคงไม่มายกมือโหวตปิดสวิตช์ สว. ซึ่งเรื่องนี้ ทั้งพรรคเห็นตรงกัน นี่คือครั้งแรกที่เราเห็นตรงกันขนาดนี้
ปี 2562 เราใช้ กติกาเอา คสช. ออกไป รัฐธรรมนูญวางวิธีการไว้อย่างนั้น มันก็ต้องเล่นตามเกม และพรรคก็ส่งผู้สมัครสู้เต็มที่ วันนั้น เราไม่มานั่งวิจารณ์รัฐธรรมนูญด้วย เพราะเลือกร่วมการแข่งขันไปแล้ว การที่ลงเลือกตั้ง ต้องการเป็นตัวเลือกให้ประชาชน อยากให้ระบบรัฐสภาปกติกลับมาทำงาน แล้วพอมีนายกฯจากรัฐสภา ท่านนายกฯประยุทธ์ ท่านเปลี่ยนทันที เมื่อก่อนท่านทำงาน ไม่มีใครมาตรวจสอบ แต่คราวนี้ ตรวจสอบกันทุกปี สิ่งเหล่านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 57 – 62
มีคนมาบอกว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทย มาอยู่ฝั่งเพื่อไทย ก็ได้ตั้งรัฐบาล ในความเป็นจริง มันไม่ใช่ จะบวกเท่าไร มันก็ไม่ชนะอีกฝ่าย เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ ส.ส. แต่มันมี สว. แล้วบางคนลืมนับ นี่คือวิทยาศาสตร์เรื่องตัวเลข จะชนะเขา มันมีทางเดียวต้องเอาพรรคพลังประชารัฐมาร่วมด้วย มันทำได้ไหม ก็ทำไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ ตนคำนวณแล้ว และต่อมาได้คำนวณต่อไปอีก พรรคภูมิใจไทย จะทำให้ รัฐบาล คสช. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทำสำเร็จ ถ้าตนเล่นตัว จะลากไปถึงปลายปีก็ได้ เพราะ รัฐธรรมนูญไม่มีบทกำหนดว่าหลังเลือกตั้ง ต้องมีรัฐบาลใหม่ในกี่เดือน มีแต่บอกว่า รัฐบาลที่มีอยู่ จะปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่า รัฐบาลชุดใหม่จะมา เท่ากับอยู่กับ คสช.ไปเรื่อยๆ มันชัดเจนตามกฎหมาย แต่หลายคนไม่พูดถึงเลย ไปพูดแต่ว่าเราไปร่วม โดยไม่ดูเลยว่าทำไม
“ผมก็โดนจับตอนยึดอำนาจ ผมก็ไม่สบายใจ และ ไม่ลืม แม้จะได้รับการปฏิบัติอย่างดี แต่เสรีภาพ ผมถูกจำกัด ต่อให้ต้องอยู่สามวัน ก็เหมือนสามสิบปี ตรงนี้ มันทำให้ผมไม่อยากอยู่กับระบบ คสช. มันต้องจบเกมรัฐบาล คสช. เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ เรายุติอำนาจ คสช. ลงแล้ว ตอนนั้น ผมพอใจในเรื่องนี้”