วันนี้ (11 เมษายน) ศาลฎีกามีคำพิพากษา ในคดีที่นายพัฒนา หลังปูเต๊ะ (อิหม่ามเฟาซัน) อิหม่ามมัสยิดต้นสน ยื่นฟ้องคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร (กอจ.กทม.) ปลดออกจากตำแหน่งอิหม่ามมัสยิดต้นสน โดยศาลฎีกามีคำวินิจฉัยยกคำร้องตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทำให้การการคำสั่งปลดอิหม่ามเฟาซันออกจากตำแหน่ง มีผล
การปลดอิหม่ามเฟาซัน ของกอจ.กทม. ได้ต่อสู้มายาวนานหลายปี หลังถูกปลดตำคำสั่งของกอจ.กทม.อิหม่ามเฟาซัน ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ซึ่งกอท.เห็นชอบตามคำสั่งของกอจ.กทม.
อิหม่ามเฟาซัน ได้ยื่นฟ้องต่อศาล ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า การคำสั่งของกอจ.กทม. ไม่ถูกต้อง ต่อมาได้ยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น และศาลฎีกามีคำสั่งยื่นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์
อิหม่ามเฟาซัน กล่าวว่า เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งออกมาแบบนี้ ก็น้อมรับคำตัดสินของศาลฎีกา แต่ก็พร้อมที่จะสู้ต่อในตำแหน่งอิหม่ามมัสยิดต้นสน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมัสยิด แม้ศาลฎีกาออกมา แต่ยังมีคุณสมบัติครบที่จะลงสมัครได้
“ผมยอมรับคำตัดสินของศาลฎีกา แต่อยากถามบางฝ่ายว่ายอมรับหรือไม่ ที่มีการร้องเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งเรื่องคุณสมบัติจะเร่งดำเนินการต่อตามที่ม.ล.ปนัดดา ดิษกุล เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีคำวินิจฉัยไว้ แม้กรมการปกครองจะมีความเห็นต่าง ก็ยังมีช่องทางเดินหน้าต่อจนถึงนายกฯ และศาลปกครอง” อิหม่ามเฟาซัน กล่าว