“อนุทิน” เปิดตัว! ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ชู “4นโยบายเด็ด” ชาวบ้านแห่รับตรึม

“อนุทิน” นำทัพ “ภูมิใจไทย” เปิดตัวผู้สมัคร “สงขลา” ย้ำตอกเสาเข็มพัฒนาพื้นที่ ชู “4 นโยบายเด็ด” พักหนี้ประชาชน 3 ปี ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน สมาร์ท.อสม ขึ้นค่าตอบแทนนักรบชุดเทา และ โซล่าเซลเพื่อประชาชน

วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย( ภท.) พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ได้เดินทางมา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ประกอบด้วย เขต 1 นายประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายก เทศมนตรีเขารูปช้าง เขต 2 นายฉัตรชัย ชูแก้ว อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นายไพร พัฒโน อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 3 สมัย และ นายกเทศมนตรีหาดใหญ่ เขต 4 ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ ส.อบจ.สงขลา เขต อ.ระโนด เขต 5 นายอนลอัทธ์ พลธนนินท์ เขต 7 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และ เขต 8 นายวสันต์ ช่างหมาน อดีตผู้สมัคร ส.ส. ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ คือ นายปราโมทย์ แสงอรุณ และ นายณรงค์ ณ พัทลุง ท่ามกลางประชาชน กว่า 10,000 คนนายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทยเน้น ไปที่การตอกเสาเข็มแห่งความเจริญลงในพื้นที่ต่างๆ กับ จังหวัดสงขลา ที่นี่ให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่นให้ส.สพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วปี 2562 มา 1 ท่านเป็นโอกาสให้พรรคภูมิใจไทยได้ทำงานรับใช้พี่น้องชาวสงขลา ดังนั้น พรรคมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสงขลา ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาภาคใต้ และ สร้างเมืองหาดใหญ่ให้เป็นเมืองการค้า เมืองท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ อีกครั้งหนึ่ง พรรคภูมิใจไทย จัดทำโครงการสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เชื่อม จังหวัดพัทลุง โครงการนี้ ลงทุน 4,829 ล้านบาท ต้องสำเร็จ ภายใน 3 ปี นับจากนี้ไป และ จะเป็นพยานรัก ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ ชาวสงขลาที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม จัดสรรงบประมาณ 3,615 ล้านบาท มาพัฒนาถนนในสงขลา 57 โครงการ และ วางแผนการพัฒนาการขนส่งทุกระบบของสงขลา ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ไว้อีก 53,813 ล้านบาท นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทุ่มงบประมาณ มาที่สงขลาหลายร้อยล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และ สร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยว ให้ฟื้นขึ้นมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด และตั้งเป้าหมาย จะเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาสงขลา มา หาดใหญ่ ให้ได้มากกว่า 7 ล้านคน ในปีหน้า คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในสงขลา ไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท และ กระทรวงสาธารณสุข วางแผนพัฒนาให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ สงขลา เป็นศูนย์กลางการแพทย์ด้านรังสีรักษา เพื่อให้การรักษา ดูแลพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างจุดเด่นของพรรคภูมิใจไทย คือ เราเป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ ที่เราทำได้ ทำสำเร็จ อาทิ นโยบายกัญชาทางการแพทย์ และ สุขภาพ ประเทศไทย จะเป็นผู้นำการศึกษา วิจัย พัฒนา และใช้กัญชาทางการแพทย์สุขภาพ ของอาเซียน และ เอเชีย ซึ่งมีหลายประเทศ มาศึกษา ดูงาน และจะเดินตาม เช่น มาเลเซีย ประเทศไทย จะมีรายได้จากอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท การนำประเทศไทยออกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด และ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว ได้เร็วกว่าหลายประเทศ ทำให้ระบบสาธารณสุขไทย เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ เม็ดเงินจากการท่องเที่ยว จะมากกว่า 3 ล้านล้านบาท เม็ดเงินจากการลงทุน จะเข้าสู่ประเทศไทย การสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ด้วยระบบ สามหมอ และ ให้ความสำคัญกับ อสม. หมอคนที่หนึ่ง เพิ่มค่าตอบแทน และ ค่าเสี่ยงภัย ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมาคือการเซ็นสัญญาฉบับแรกและเราทำสำเร็จแล้ว จากนี้จะเป็นการเซ็นสัญญาฉบับ 2 ขอให้ประชาชนมาเลือกพรรคภูมิใจให้มากๆและผลักดันให้เราได้มีโอกาสไปทำงาน เราจะพักหนี้ประชาชน คนไทยทุกคน ดังนี้

1.ได้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปีเท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิ ไม่ได้

2. จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัท ที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่าย อย่างน้อย ร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนา แก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการ ระบุ เทศบาล อบต. อบจ. ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน หรือ ที่ตั้งกิจการของตัวเองได้ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้ว ได้รู้ว่าภาษีของตัวเอง เอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร นอกจากนี้จะมีนโยบายที่3.ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ “การไฟฟ้าประชาชน” ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือ พื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซล ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัว ที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้า ได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือ ช่วยให้รัฐบาล ลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ

และ 4.พัฒนาอสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็น เดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม. เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.