นั่งเก้าอี้ “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ได้ไม่กี่วัน แต่สิ่งที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำให้คนไทยได้เห็น “ฮ็อตไลน์” ต่อสายตรงถึง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม. เมื่อค่ำของวันที่ 27 สิงหาคม 2565
แล้วประกาศให้ชาว กทม.ได้ยินทั่วกัน… รัฐบาลพร้อมส่งกำลังพลจากกองทัพมาช่วยกรุงเทพฯแก้ปัญหาน้ำท่วม ดีเดย์…เช้าวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ หลังเส้นทางน้ำหลากจากภาคเหนือ ส่อแววจะถล่มใส่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร จนอาจทำให้หลายพื้นที่ของเมืองหลวง ตกอยู่ในสภาพ “จมน้ำ” ได้
ไม่เพียงสร้างความแตกต่างให้สังคมไทยได้เห็น เพราะหาก นายกฯยังคงเป็นชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ภาพนี้…ไม่มีทางจะเกิดขึ้นแน่ ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา…คือ บทพิสูจน์
ทำไม “บิ๊กป้อม” ถึงเลือกเป็นฝ่ายโทรหา “ชัชชาติ” โดยไม่ยอมให้ฝ่ายเลขาฯประสานงานมาก่อน เรื่องนี้…มีคำตอบ! และเป็นคำตอบที่โชว์เหนือให้ได้เห็นจริงๆ… เพราะ “บิ๊กป้อม” เลือกคน…เลือกจังหวะและเวลา ได้สอดรับกับภารกิจ “ดูแลบริหารจัดการน้ำในภาพรวม” ในสถานการณ์นี้ก่อนอื่น ต้องยอมรับใน “มันสมอง” ทีมยุทธศาสตร์ของ “บิ๊กป้อม” ที่เก่ง….กับการวางแผนอันแยบยล และเก่ง…กับการเล่นกับกระแสสังคมไทย ไม่เพียงโชว์เหนือ…ได้เหนือกว่า “นายกฯเว้นวรรคชั่วคราว” หากยังสามารถจะเรียกคะแนนสงสารจาก กองเชียร์ “ชัชชาติ” ที่ยอมเป็นฝ่ายโทรหาก่อน…
เปิดใจ…กองเชียร์ “ชัชชาติ” เปิดใจ…คนไทย ฟากประชาธิปไตยได้ ภารกิจอื่นๆ ที่สำคัญยิ่งกว่าในอนาคตอันใกล้ ก็ไม่ถูกต่อต้านให้มากความ อะไรคือภารกิจที่ว่านี้???
ก่อนตอบคำถามนี้ ลองไปสำรวจดูขอบเขตแห่งอำนาจของ “รักษาการนายกรัฐมนตรี” โดยเฉพาะ ปม…จัดสรรและใช้งบประมาณปี 2566 ปม…แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
รวมถึงปมสำคัญนี้…ประกาศยุบสภาฯ พร้อม “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งและสรรหานายกฯคนใหม่ได้
สิ่งที่สังคมไทยและคอการเมืองต่างจับจ้องในยามนี้ คงไม่พ้น…ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี “นายกฯ 8 ปี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สุด…จะออกหน้าไหน?
หากศาลรัฐธรรมนูญ ตีความการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ครบ 8 ปี โดยนับเริ่มจากวันที่ได้รับเลือกจากรัฐสภา เมื่อ 6 มิถุนายน 2562 ล่ะก็…ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม และส่งต่ออย่างมากถึงพรรคการเมืองที่ชื่อ “รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรคฯ
หากตรงกันข้าม…พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อไม่ได้ เพราะเป็นนายกฯครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็ต้องเปิดทางให้รัฐสภาทำการสรรหานายกฯคนใหม่ ตามทำเนียบรายชื่อ “แคนดิเดทนายกฯ” ที่แต่ละพรรคฯเคยเสนอให้ ป.ป.ช. พิจารณาไปก่อนหน้านี้
เช็คละเอียดยิบ…ว่าที่นายกฯคนใหม่ จะชื่อ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรคภูมิใจไทย อย่างไม่ต้องสงสัย? สถานการณ์นี้ย่อมจะส่งผลเชิงบวกมหาศาลต่อพรรคการเมืองนี้ หากเมืองไทย…จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่
เวลา “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ของ “บิ๊กป้อม” ก็จะสิ้นสุดไปพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในทันที!
หนทางเดียวที่จะทำให้ “บิ๊กป้อม” ครองอำนาจและดำรงตำแหน่ง “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ได้ต่อไป ก็คือ…ยื้อเวลาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้อง “นายกฯ 8 ปี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้นานที่สุด! กระทั่งผ่านพ้นวันที่ 30 กันยายน สู่ปีใหม่ของบประมาณ 2565 ไปเสียก่อน
รอให้…มีการใช้เงินงบประมาณปี 2566 รอให้…มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะ บรรดานายทหารใหญ่ในกองทัพฯ ถึงตอนนั้น…หาก “บิ๊กป้อม” ประกาศยุบสภาฯ ก่อนการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็น “บิ๊กป้อม” ที่ครองอำนาจนี้ต่อไป และส่งผลบวกต่อพรรคพลังประชารัฐตามมา…
นี่หรือไม่? คือเหลี่ยมคูทางการเมืองที่ทีมยุทธศาสตร์ของ “บิ๊กป้อม” วางเกมเอาไว้…
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า…กรอบเวลาในการวินิฉัยปม “นายกฯ 8 ปี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ “ขีดเส้นตาย” ไม่เกิน 15 วัน นับจากวันออกคำสั่งให้มีการ “หยุดทำหน้าที่นายกฯ” (24 ส.ค.) ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้
นับต่อเนื่องกันไป… แค่ ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องนี้เพียง 3 สัปดาห์หลังจากนั้น
ทุกอย่างจะเข้าทาง “บิ๊กป้อม” ทันที!!!