“อุตตม สาวนายน” ประกาศ รีเซ็ตประเทศไทย ชูนโยบายหลัก “5 แก้ไข-5 สร้าง” นำพรรค “สร้างอนาคตไทย” สู้ศึกเลือกตั้ง ผุดกองทุน 3 แสนล้าน เร่ง 2 โจทย์ใหญ่แ ก้ปัญหาหนี้สิน-ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจทันโลก
วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ที่ โรงภาพยนตร์ 3 SF World Cinema ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย , นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคกรุงเทพฯ , นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ , นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคและประธานภาคกลาง , นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน , นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค , นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค และนายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรค เป็นต้น แถลงข่าวเปิดยุทธศาสตร์ “เราพร้อม เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย”นายอุตตม กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ได้ประกาศตัวว่าจะเป็นพรรคที่เข้ามาแก้วิกฤติของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในวันนี้พรรคจึงขอประกาศขับเคลื่อนแนวนโยบายคู่ขนานที่สำคัญ คือ 5 แก้ไขได้แก่ 1. หยุดการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ 2. การปราบปรามยาเสพติด 3. ลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน 4. เพิ่มประสิทธิภาพ และลดขนาดภาคราชการ ลดการบริหารแบบรวมศูนย์ ลดขั้นตอนราชการ และ 5. ยกระดับภาคการเกษตรให้ทันสมัย ปรับปรุงภาคเศรษฐกิจที่ล้าสมัย และ 5 สร้าง ได้แก่ 1. สร้างเศรษฐกิจฐานราก 2. สร้างภาคเศรษฐกิจใหม่ 3. สร้างสังคมที่เกื้อกูล 4. สร้างคน และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมก้าวสู่สังคมยุคใหม่ 5. สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่จะรีเซ็ตวิกฤตและสร้างอนาคตของประเทศไทยโดยโจทย์ที่พรรคพร้อมจะแก้ไขมี 2 เร่ง คือ เร่งแรก เร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินทุกประเภท และเร่งที่สองคือ เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีศักยภาพ และทันโลกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยใช้กลไกกองทุนสร้างอนาคตไทย วงเงิน 3 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนคนตัวเล็ก จำนวน 1 แสนล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และปรับโครงสร้างหนี้ พักชำระหนี้เบ็ดเสร็จอย่างน้อย 5 ปี พร้อมทั้งปรับปรุง ปรับเปลี่ยน เสริมสร้างอาชีพ และเติมทุนใหม่ และอีกจำนวน 200,000 ล้านบาท จะเป็นกองทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างอนาคตประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากจากการชะงักงัน สร้างเศรษฐกิจยุคใหม่ สู่อนาคตประเทศไทยแห่งความเท่าเทียมและยั่งยืน เสริมนวัตกรรม เร่งสร้าง Startup พัฒนาเกษตรกรรมยุคใหม่ และท่องเที่ยวชุมชนนายสนธิรัตน์ ได้สะท้อนถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า วันนี้การเมืองไทยติดหล่มอยู่กับการแสวงหาอำนาจ เพื่อประโยชน์พวกพ้องของนักการเมือง มุ่งแต่แสวงหาอำนาจ เพื่ออำนวยผลประโยชน์พวกพ้อง โดยไม่ได้ทุ่มเทการทำงานเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนาประเทศ สมกับคำว่าผู้แทนราษฎรหรือตัวแทนของพี่น้องประชาชน จึงทำให้เศรษฐกิจของประเทศติดหล่ม ประเทศไม่ได้รับการพัฒนา ย่ำอยู่กับที่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ซึ่งเกิดความเหลื่อมล้ำทั้งด้านสิทธิพื้นฐานในสังคม และการประกอบธุรกิจของคนตัวเล็กตัวน้อย เกิดการคอรัปชั่นที่เลวร้ายที่สุดในประวัติกาล ประชาชนคนไทยเผชิญกับภาวะหนี้สินครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น เป็นหนี้นอกระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้พรรคสร้างอนาคตไทยมองว่าหากปล่อยให้ประเทศเลวร้ายลงไป อาจจะต้องก้าวสู่ความล่มสลายเหมือนหลายประเทศก็เป็นได้นายสนธิรัตน์ กล่าด้วยวว่า การเมืองวันนี้ เป็นการเมืองที่เกิดการกัดกร่อนทางความศรัทธา เป็นเพียงการเมืองที่มีเสถียรภาพของเสียงในสภา แต่ไม่มีเสถียรภาพทางการบริหารบ้านเมือง ติดอยู่ภายใต้เงาของอำนาจที่แตกแยก ทำให้ประชาชนหมดหวัง ขาดความมั่นใจต่อนักการเมืองที่บริหารประเทศ ขณะเดียวกันประเทศเผชิญวิกฤตรอบด้าน ทั้งโควิดไม่จบ และยังไม่เปิดโอกาสต่อการเดินหน้าของประชาชน ในวันนี้เป็นปลายสมัยของรัฐบาล จะเห็นได้ว่าสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน แทนที่จะมุ่งเน้นการบริหารประเทศ แต่กลับบริหารจัดการมุ่งเน้นไปสู่การเตรียมการเลือกตั้งมากกว่า เราจึงอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง จากผลกระทบทางการเมืองในปัจจุบัน