“ศักดิ์สยาม” พูดแล้วทำ คนกทม.เฮ นั่งรถเมล์ไฟฟ้าครั้งแรกในไทย “คมนาคม” จับมือ “ไทย สมายล์ บัส” นำร่องให้บริการ 40 คัน แรก ดีเดย์ 20 ส.ค. นี้ ย้ำ แม้ใช้เวลาดำเนินการนาน แต่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ หากตั้งใจ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี เปลี่ยนจากรถร้อนเป็นรถไฟฟ้า เพื่อคุณภาพชีวิตปชช.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการ เดินรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (EV) สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) จากบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ว่า เป็นการคิกออฟการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น มีสายทางให้บริการจำนวน 237 เส้นทาง แบ่งเป็นผู้ประกอบการเป็นเอกชนที่มายื่นขอลายเส้นกับกรมขนส่งทางบก(ขบ.) และการให้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก) โดยวันนี้เป็นการเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะของผู้ประกอบการที่เป็นเอกชน ซึ่งเป้าหมายในการเปิดให้บริการ คือสาย8 เป็นสายแรกที่เป็นรถไฟฟ้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้บริการ จำนวน 40 คัน เริ่มให้บริการในวันที่ 20 สิงหาคม นี้สำหรับเป้าหมายของไทย สมายล์ บัส ที่ได้ร่วมมือกับขนส่งทางบกในการเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะจากรถซึ่งใช้พลังงานที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประเทศด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น pm 2.5 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น เป็นเรื่องที่ได้เคยพูดไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งใช้เวลานานในการทำงานนี้จนสำเร็จ แต่ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ หากตั้งใจจะทำ และตั้งเป้าว่าในอนาคต จะขับเคลื่อนนโยบายนำรถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลครบจำนวน 237 เส้นทาง ซึ่งสาย 8 เป็นสายแรกที่เริ่มนำร่องในแผนปฏิรูป“ได้มีการประชุมหารือกันถึงเรื่องของการพิจารณาค่าโดยสาร โดยเอกชนได้เสนอไว้เป็นการเก็บค่าบริการเหมือนเดิม เริ่มที่ราคา 15-20-25 บาท ตามระยะทาง โดยเพิ่มเติมว่าหากมีการใช้บริการในวันนั้นครบ 40 บาทไม่ต้องชำระเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการนำบัตร E- ticket มาให้บริการ สามารถเติมตังได้ โดยผู้โดยสารสามารถซื้อได้จากพนักงงานที่อยู่บนรถคันดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือบริษัทให้จัดเก็บค่าโดยสาร เริ่มต้น ที่ 10 บาท สำหรับ ผู้โดยสารที่มี บัตรสวัสดิการ คนจน เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชาชนที่มีรายได้น้อย จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. นี้เป็นอย่างน้อย “นายศักดิ์สยาม กล่าวนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการประเมินผลปัญหาอุปสรรคการให้บริการในระยะเวลา 60 วัน ว่ามีเรื่องใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ในการให้บริการขับเคลื่อนเป้าตามแผน โดยนำรถอีวี มาวิ่งให้บริการครอบคลุม 5,000 คันในระยะเวลา 3 ปี ในส่วนของ ขสมก. มีแผนนำรถไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการปีนี้ 400 คัน อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ และรอทางด้านขององค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เข้ามาตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเกิดความโปร่งใส“ไทย สมายล์ บัส ได้เสนอแผนในการเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมระบบอื่นๆ เช่น เรือ รถไฟฟ้า หรือ รถไฟทางไกล ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ เชื่อว่าสิ่งที่พยายามทำ แม้ว่าจะใช้เวลามากพอสมควรเกือบ 4 ปี แต่ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้หากเราตั้งใจจะทำ วันนี้ถือเป็นการพิสูจน์ว่าเราเริ่มนับ 1 ในการให้บริการรถขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และมีแผนที่จะดำเนินไม่เกิน 3 ปี ในการเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าๆ หรือรถร้อน มาเป็นรถไฟฟ้า เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน เข้าถึงการให้บริการโดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ก็สามารถเข้าถึงการให้บริการ ซึ่งจะทำให้นี้สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามสมมุติฐานที่กระทรวงคมนาคมตั้งใจไว้”นายศักดิ์สยาม กล่าวด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า ในเฟสแรกบริษัทฯ มีรถเมล์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 153 คัน ซึ่งจะทยอยนำมาวิ่งให้บริการล็อตแรก 40 คัน เริ่มวันที่ 20 ส.ค.นี้ และจะนำออกมาวิ่งครบทั้งหมดภายในเดือนส.ค.นี้ พร้อมติดตั้งตู้ชาร์ตแบบฟาสต์ชาร์ต กำลังไฟ 310 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์ตหนึ่งครั้ง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือวิ่งได้ 4 รอบ 280 กิโลเมตร(กม.)ต่อวัน ซึ่งมีกระจายตามอู่ทั้ง 8 อู่ มีอู่ละ 20 หัวชาร์ต จะครอบคลุมใน 71 เส้นทางที่บริษัทฯได้รับสัมปทาน มีแผนเปิดให้บริการ ภายในปี 2565