รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่มีแนวคิด “เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง” ของเกาหลีเหนือ แต่การโจมตีฐานทัพซีเรียถือเป็น “สัญญาณเตือน” ถึงรัฐบาลเปียงยาง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่านายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันอาทิตย์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางทหารของกองทัพสหรัฐต่อฐานทัพซีเรีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกเหนือจากเพื่อเป็นการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือนแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยัง “ประเทศใดก็ตาม” ที่ปฏิบัติในด้านนโยบายขัดต่อบรรทัดฐานระหว่างประเทศ และอยู่ในสถานะเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อประชาคมโลก
ทั้งนี้ ทิลเลอร์สันไม่ได้กล่าวพาดพิงอย่างเจาะจงถึงเกาหลีเหนือในประเด็นดังกล่าว แต่ย้ำว่าเป้าหมายของสหรัฐคือการที่คาบสมุทรเกาหลีต้องเป็นพื้นที่ปลอดนิวเคลียร์อย่างถาวร ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รับทราบและมีความเข้าใจในเรื่องนี้เช่นกัน ว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีย่อมส่งผลต่อผลประโยชน์ของจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทิลเลอร์สันยืนยันว่ารัฐบาลวอชิงตันไม่มีเป้าหมาย “สร้างความเปลี่ยนแปลง” ให้แก่ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีขึ้นในเวลาเดียวกับที่กองเรือแปซิฟิกของสหรัฐสั่งให้กลุ่มเรือพิฆาตนำโดยเรือ “ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์ และเรือติดตามอีกจำนวนหนึ่ง เปลี่ยนเส้นทางจากเดิมที่ต้องออกเดินทางจากสิงคโปร์ไปยังออสเตรเลีย ให้ขึ้นไปทางทิศเหนือเข้าสู่คาบสมทุรเกาหลีแทน “เพื่อเตรียมความพร้อม” ในการปกป้องพื้นที่ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งการเคลื่อนพลในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) ประณามปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐ ซึ่งระดมยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพในซีเรียว่า “ให้อภัยไม่ได้” และประกาศยกระดับขีดความสามารถในด้าน “การต่อสู้และป้องกันภัยทางอากาศ” ทันที
คลิปประกอบ : Arirang News
Cr. https://www.dailynews.co.th/foreign/567293