นักวิชาการชื่อดัง ม.บูรพา ฟันธง ภท.ชิ่ง พปชร. จับมือ พท.จัดตั้งรบ.หลังเลือกตั้ง

“โอฬาร ถิ่นบางเตียว” นักวิชาการจาก ม.บูรพา วิเคราะห์การเมือง เชื่อ “เพื่อไทย” ตั้งรัฐบาลได้ แต่ต้องพึ่ง “ภูมิใจไทย” ระดมเสียง ป้องกัน 250 ส.ว.ป่วน เชื่อหลัง เลือกตั้งรอบหน้า จะได้รัฐบาลเร็ว

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์การเมืองไทย เรื่องการจับขั้วรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง จากกรณีสภาล่ม ระบุ ว่า การที่สภาล่มเท่ากับสูตรเลือกตั้งแบบหาร 100 จะกลับมาอย่างแน่นอน แล้วการล่มที่เกิดขึ้น ก็เป็นประจักษ์พยานอย่างดีว่า เพื่อไทย กับ พลังประชารัฐ เอาเข้าจริงแล้ว จับมือกันได้แน่นอน จนตอนนี้ มีคนสงสัยกันว่า ที่ระบบเลือกตั้งเอาใจเพื่อไทย เพราะมันมีดีลระหว่าง 2 พรรคใหญ่กันแล้วใช่หรือไม่ ส่วนพรรคเล็กที่ไปให้ความหวังเขา ก็เททิ้งเสียดื้อๆ แน่นอนแฟนคลับเพื่อไทยเอง ปลอบใจตัวเองว่าเพื่อไทย จะไม่มีทางจับมือกับพลังประชารัฐ

อยากจะบอกว่า ทางความเชื่อ อาจจะคิดได้ แต่ข้อเท็จจริงคือ การเมืองไทย มันไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ มีการเรียกร้องจากกองเชียร์เพื่อไทย อยากให้พรรคไปจับมือกับก้าวไกล เสรีรวมไทย แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทย กับพลังประชารัฐทำเรื่องล่มสภา ให้กฎหมายลูกกลับไปหาร 100 ก็เหมือนกับเอามีดไปแทงก้าวไกล กับ เสรีรวมไทยแล้ว นี่คือการทำหมันทางการเมือง เพื่อไทย ไม่ได้มองว่า 2 พรรคนั้นเป็นมิตรมาตั้งแต่ต้น การประกาศเรื่อง แลนด์สไลด์ก็ชัด ว่ามันหมายถึงแต่พรรคเพื่อไทย แล้วการที่เขาอยากแลนด์สไลด์ เพราะเขาอยากตั้งรัฐบาล และไม่ใช่แค่อยากตั้งรัฐบาล แต่ต้องอยู่ได้ด้วย บางทีอาจจะหมายความไปถึงการเอาอดีตนายกฯ กลับบ้านอีก เขามองไกล ต้องใช้เสียงรัฐบาลเยอะ และไม่ใช่เยอะเพื่อเอาชนะฝ่ายค้าน แต่ต้องเยอะถึงขนาดที่ปิดสวิตช์ ส.ว.ในการเลือกนายกฯได้เลย นั่นหมายความว่า ลำพังเขาจับแค่ พลังประชารัฐ มันไม่พอ เพราะเขาต้องการเสียง 375 เสียง เพื่อคว่ำ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ เนื่องจากถ้าไม่ได้ตัวเลขพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนนี้ ก็อาจจะได้เป็นแค่พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีนายกฯ มาจากที่เขาเลือกให้อีก แบบนั้น ไม่ต่างจากฝ่ายค้านเลย เป็นรัฐบาลแบบนั้น มันไม่มีศักดิ์ศรี เผลอๆ จะเป็นลูกไร่ พลังประชารัฐอีก เพราะเขามีสายสัมพัน์กับ ส.ว…

“เพื่อไทย ต้องมองไปที่พรรคภูมิใจไทย เพราะจากสภาพตอนนี้ พรรคพลังประชารัฐ ไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่ใช่พรรคใหญ่โตอะไรเลย เป็นได้แค่กองหนุนของพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ตัวเลข ส.ส.ของพรรคมันไม่มาก มันมากแต่บารมี แต่มันไม่มีกองหนุน มันไม่มีความชอบธรรม ถ้าไม่เอาภูมิใจไทย ก็ต้องไปมองประชาธิปัตย์ แต่ถามว่า จะพึ่งพาได้หรือ ปัญหามากมายขนาดนั้น ไม่รู้รวมมาแล้ว จะมีเสียงพอปิดสวิตช์หรือไม่ แถมยังเอาแน่ เอานอนไม่ได้อีก นี่คือเกมของเพื่อไทย การเป็นรัฐบาลของเพื่อไทย ต้องอาศัยเสียงมากจริงๆ อย่างไรเสียก็ต้องร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย อันนี้ คือโจทย์ ถ้าเพื่อไทย กับ พลังประชารัฐ จะจับมือ แล้วถ้าเกิดหลังเลือกตั้ง ทั้ง 2 พรรค ไม่จับมือแล้ว จะเดินกันอย่างไร ทั้งเพื่อไทย และพลังประชารัฐ ยิ่งต้องหาเพื่อนเลย ฝ่ายเพื่อไทยมีเสียงมากกว่า แต่โจทย์เดิม คือ ต้องระดมมาให้ได้ 375 เสียง อย่างไรก็ต้องจับมือภูมิใจไทย ลำพังไม่มีภูมิใจไทย มีแต่กลุ่มพรรคขั้วเดียวกัน รับรองว่าเสียงไม่ถึงเป้า สวิตช์ ส.ว…ยังเปิดอยู่ ก็ต้องเอาภูมิใจไทยมาด้วย” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

ส่วนประชาธิปัตย์ ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งกับเพื่อไทย มันยาวนานฝังราก โอกาสจับมือเพื่อไทย แทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าช้า พลังประชารัฐ มาเอาไปแน่นอน แล้ว พลังประชารัฐ ถึงจะได้เสียงน้อยกว่า แต่อย่าลืมว่ามี ส.ว.ทั้งหมดคือโจทย์การเมือง เป็นโจทย์ที่ 2 พรรคใหญ่ต้องขบคิด และต้องตัดสินใจกันให้เร็วด้วย เพราะรอบนี้ เชื่อว่าจะตั้งรัฐบาลกันเร็ว หักเหลี่ยมเฉือนคม พรรคตัวแปร จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมเลย