GULF ปลื้ม Q2 รายได้โต107% ทะลุ 2.4 หมื่นล้าน เล็งลงทุนโรงไฟฟ้ายุโรป-USA

GULF ปลื้ม ไตรมาส 2 รายได้โต 107% มูลค่ารวมกว่า 2.4 หมื่นล้าน จากโรงไฟฟ้า “GSRC -ก๊าซธรรมชาติ” พร้อมเล็งลงทุนโรงไฟฟ้าในยุโรป-สหรัฐอเมริกา ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่มากกว่า 1,000 เม็กกะวัตต์

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวม 24,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 107% มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ (รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) 1,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน 1,407 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 6% จาก 33.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 1/2565 มาเป็น 35.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 2/2565 ซึ่งเป็นเพียงการบันทึกรายการทางบัญชี และไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและผลประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมีเป็นผลจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 1-3 รวม 1,987.5 เมกะวัตต์ ที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปในปี 2564 และครึ่งปีแรกของปี 2565 ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SPP 12 โครงการ ภายใต้กลุ่ม GMP เนื่องจากราคาขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามราคาก๊าซธรรมชาติ และจากปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 2/2564

สำหรับครึ่งหลังของปี 2565 ความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ยังเป็นไปตามแผน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 4 กำลังการผลิต 662.5 เมกะวัตต์ ในเดือนต.ค. หรือโครงการโซลาร์รูฟท็อป ที่จะทยอยเปิดดำเนินการให้ครบ 100 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี2565

นอกจากนี้ ได้เข้าถือหุ้น 50% ร่วมกับกันกลุ่ม ใน Gulf Gunkul Corporation ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการ รวมทั้งสิ้น 170 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในงบการเงินตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป เนื่องจากทั้ง 3 โครงการได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้ว จึงมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2565 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

นางสาวยุพาพิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าหลายโครงการ ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในยุโรป อังกฤษ อเมริกา และเอเชีย ซึ่งล้วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปและเห็นความชัดเจนภายในปีนี้