“สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม นำคณะ จัดงานมหกรรม ไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ที่ สุพรรณบุรี และ กาญจนบุรี ตั้งเป้าหมายช่วยเหลือลูกหนี้ ให้พ้นทุกข์ โดยเจรจาให้เจ้าหนี้ สถาบันการเงิน ลดดอกเบี้ยให้ทั้งหมด เหลือเฉพาะยอดเงินต้น
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 เวลา 09.30 น. ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 73 และ ยุติธรรมพบประชาชน จ.สุพรรณบุรี โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวรวิวรรณ์ ศรีวนาภิรมย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นางอัญชลี ภูริวิทย์วัฒนา รองผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดร.วรานี เวสสุนทรเทพ รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตสุพรรณบุรี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวดนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 5,598 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 715 ล้านบาท โดยงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน 72 ครั้ง ที่ผ่านมาไกล่เกลี่ยสำเร็จ 57,531 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 5,196 ล้านบาท แต่เรายังไม่พอใจ เราจะจัดใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 8-11 ก.ย. ที่เมืองทองธานี โดยจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดงาน นอกจากนี้ เรายังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 999 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน สำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่งทั่วประเทศ“หลายคนอาจจะมีข้อข้องใจว่าทำไมเราถึงช่วยแต่ลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระ เพราะการช่วยเหลือของเราเป็นไปตามกระบวนการที่เราทำได้คือในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิฯและกรมบังคับคดี ในส่วนลูกหนี้ชั้นดีที่จ่ายตรงเวลา ทางสถาบันการเงินกำลังพูดคุยกันเพื่อหาโปรโมชั่นการลดหย่อน ซึ่งน่าจะได้แนวทางเร็วๆนี้ โดยหากท่านมีปัญหาเดือดร้อนหรือทุกข์ใจ สามารถไปยังยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อปรึกษาปัญหาและร้องทุกข์ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ เรายินดีที่จะให้บริการช่วยเหลือทุกท่านอย่างเต็มที่ หรือสามารถโทรสายด่วน 1111 กด 77 “นายสมศักดิ์ กล่าวจากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย 7 ศูนย์ มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา 9 ราย เป็นเงิน 475,100 บาท และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง รายแรก เป็นหนี้ก่อนฟ้อง กู้เงิน กยศ.ผ่อนชำระมาแล้ว 13 ปี ยอดหนี้เงินกู้ทั้งสิ้น196,230 บาท ชำระเงินมาแล้ว 246,694 บาทเหลือยอดปัจจุบัน รวมเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับเป็นเงิน 72,243.87 บาท ผลการเจรจาได้รับส่วนลดทั้งหมด 72,243.87 บาท ปิดบัญชี อีกราย เป็นตำรวจ มีหนี้ธนาคารออมสิน หลังถูกศาลสั่งฟ้อง เงินต้น 1,976,688 บาท ดอกเบี้ย 1,852,591 บาท รวม 3,829,280 บาท ผิดนัดชำระหนี้ตามคำพิพากษา ถูกยึดที่ดิน 2 แปลงของภรรยาและญาติซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ผลการเจรจาได้ลดดอกเบี้ย 1,209,280 บาท ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ 11,114 บาท รวมส่วนลด 1,220,394 บาท คงเหลือ 2,620,000 บาท และงดการยึดทรัพย์โดยทางลูกหนี้ กล่าวว่า คนเป็นหนี้อย่าไปกลัวที่จะมาร่วมงาน โครงการนี้ได้ประโยชน์มากๆ อยากให้ทุกคนมาร่วมโครงการ เพื่อเจรจาและหาทางออกร่วมกันกับเจ้าหนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายสมศักดิ์ และคณะ ได้เดินทางไปยัง โรงแรมริเวอร์แคว จ.กาญจนบุรี เพื่อเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 74 และยุติธรรมพบประชาชน จ.กาญจนบุรี โดยมี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวรวิวรรณ์ ศรีวนาภิรมย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายชูศักดิ์ แม้นทิม รองนายก อบจ.กาญจนบุรี ข้าราชการและประชาชนให้การต้อนรับ โดยมีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 5,106 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 503 ล้านบาทจากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย 16 ศูนย์ มอบเงินเยียวยา 21 ราย เป็นเงิน 1,165,624 บาท และได้ร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง รายแรกเป็นหนี้ก่อนฟ้อง ลูกหนี้ กยศ.ผ่อนชำระมาแล้ว 15 ปี กู้มา 209,300 บาท ชำระมาแล้ว198,128 บาท เหลือเงินต้น ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ 96,668 บาท ผลการเจรจา ได้รับส่วนลด 54,558 บาท เหลือ 42,110 บาท ให้ผ่อน 9 ปี เดือนละ 400 บาท รายต่อมา เป็นหนี้หลังฟ้อง กยศ. เงินต้น 25,000 บาท ดอกเบี้ย 5,668.97 บาท เบี้ยปรับ 33,301.25 บาท ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความ 3,552 บาท รวม 67,522.22 บาท ผลเจรจาได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ 100% จำนวน 33.301.25 บาทคงเหลือยอดหนี้ 34,220.97 บาทต่อมาเป็น ลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อาชีพรับราชการ ยอดหนี้ปัจจุบัน 1,607,000 บาท เป็นเงินต้น 857,000 บาท ดอกเบี้ย 750,000 บาท ธนาคาร มีโครงการนาทีทองปิดบัญชีลดดอกเบี้ย 50% เป็นเงิน 375,000 บาท เงื่อนไขถึง มี.ค.2566 เหลือยอดปิดบัญชี 1,240,000 บาท อีกรายเป็นหนี้หลังฟ้องธนาคารออมสิน เดินทางมาจาก นครราชสีมา เป็นผู้ค้ำประกันให้ลูกกู้เงิน แม่นำที่ดินจำนอง กู้มา 1,200,000 บาท ธนาคารออมสิน ได้ทำการบังคับคดีกับผู้ค้ำประกัน โดยธนาคารได้ยึดที่ดินขายทอดตลาดได้ประมาณ 800,000 บาท แต่เหลือหนี้ปัจจุบันอีก 1,200,000 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 430,000 บาท ดอกเบี้ย 770,000 บาท ขอลดดอกเบี้ยทั้งหมด ขอชำระเงินต้น ผลเจรจาธนาคารรับคำร้องเสนอนำเรื่องให้ผู้บริหารพิจารณา
รายสุดท้าย ลูกค้าธนาคารออมสิน อาชีพ ข้าราชการ ค้ำประกันให้ญาติกู้เงิน แต่ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับผู้ค้ำประกันอีก 1 คน ยอดหนี้ตามคำพิพากษา 1,766,987.05 บาท ธนาคารได้ยึดที่ดินของผู้ค้ำประกันขายทอดตลาดได้ 200,000 บาท ขอเจรจาลดยอดหนี้ และแนวทางในการชำระหนี้บางส่วนเพื่อปลดภาระของผู้ค้ำประกัน ทางธนาคารจะส่งเรื่องเสนอผู้บริหารพิจารณา และแจ้งผลไปยังลูกค้าต่อไป