ปฏิบัติการป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ 4 อำเภอพื้นที่สีแดงของ จ.สงขลา
คืนเดียวกว่า 40 จุด ตั้งแต่ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า เผายางรถยนต์ แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่ย่อมสะท้อนให้เห็นถึง “การข่าว” ของเจ้าหน้าที่ล้มเหลว
น่าเสียดายความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพิ่งมีประกาศยุบศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. ไปรวมกับ บช.ภ.9 ตามเดิม เพื่อเกลี่ยกำลังตั้งหน่วยงานใหม่เป็น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
ทั้งที่เพิ่งก่อร่างสร้างหน่วยมาช่วยดับไฟใต้เพียง 8 ปี
ละเลงงบประมาณและกำลังพลไปจำนวนมากมายมหาศาล
ย้อนเรื่องราวจากสถานการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2547 เป็นต้นมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดส่งกำลังพลจากหน่วยงานทั้งในส่วนภูมิภาค และส่วนกลางเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ในลักษณะการบูรณาการ
เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและยุติสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด
เริ่มต้นจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ก่อนขยายโครงสร้างเป็น บช.ศชต. แยกออกจาก บช.ภ.9 เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2552
มี พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ นั่งผู้นำหน่วยคนแรก
ตลอดระยะเวลา 8 ปี หมุนเวียน “แม่ทัพ” ไปแล้วหลายคน ประกอบด้วย พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ พล.ต.ท.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ และ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ
ที่จะได้ชื่อเป็น ผบช.ศชต.คนสุดท้าย ก่อนหน่วยยุบสลาย
ขวัญกำลังใจตำรวจชายแดนใต้ส่วนใหญ่เริ่มทยอยหายนับตั้งแต่มีแนวคิดปิดกั้น “นับสิทธิทวีคุณ” ประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย
เหมือน “นักรบกล้าตาย” ถูกผู้เป็นนายใหญ่ในเมืองหลวงทอดทิ้ง
ความจริงปรากฏ ยิ่งสลดหดหู่ใจ เพราะนอกจากไม่สามารถจะดับไฟใต้
สุดท้ายยังกลับถอยหลังลงคลอง!!!
สหบาท
Cr.- ไทยรัฐ
