ทั่วไทยตั้งกล่อง จัดกิจกรรม “ลงมติ” ไม่ไว้วางใจ “รัฐบาลลุงตู่”หวังฟังเสียง ปชช. ขณะที่ โคราชวุ่น เทศกิจ ใช้กำลังรื้อเต็นท์ ยช.หญิงบาดเจ็บ ขณะที่ เชียงราย ภูเก็ต คึกคัก เตรียมนำผลโหวตมอบให้ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ
วันที่ 17 ก.ค.2565 เครือข่ายราษฎร จัดกิจกรรม “ลงมติประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์” โดยเป็นการจัดกิจกรรมทางการเมืองก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ที่จะมีการอภิปรายในวันที่ 19-22 ก.ค. โดยมีการจัดกิจกรรมหลายจังหวัดทั่วประเทศทุกภูมิภาครวมกว่า 34 จังหวัด ขณะที่กรุงเทพฯมีจุดลงมติกว่า 23 เขต อาทิ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, บริเวณคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เริ่ม ที่ จ.เชียงราย กลุ่มราษฎร นำโดย นายสราวุทธิ์ กลมธุรพจน์ จัดกิจกรรมลงมติที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง บริเวณสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ข้ามแม่น้ำกก ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย มี นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย จากนั้นคณะของนายสราวุทธิ์ ได้พากันไปจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน ที่บริเวณหอนาฬิกาเชียงราย ถนนบรรพปราการ อ.เมือง ตลาดสดเทศบาล 1 นครเชียงราย ก่อนแยกย้ายกันกลับ
สำหรับวัตถุประสงค์ ต้องการให้ ส.ส.ในสภาให้ความสำคัญต่อเสียงประชาชนที่เลือกตัวเองเข้าไปทำงาน โดยให้เห็นว่าเป็นเสียงที่มีความหมายและควรรับฟัง ไม่ใช่ฟังแต่มติของพรรคที่สังกัดอย่างเดียวแล้วไม่ฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่เลย ทั้งนี้ จะมีการรวบรวมประชามติดังกล่าวพร้อมกันทั่วประเทศ แล้วจะนำไปยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่จะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา จัดขึ้นที่ 1.ตลาดร้อยปีเมืองย่า 2.ตลาดไนท์บ้านเกาะ (NBK) 3.ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) 4.ซิตี้วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว โดยเชิญชาวโคราชร่วมลงมติ ก่อนนับผลโหวตที่ “แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์”
ทั้งนี้ บรรยากาศที่จุดลงมติบริเวณ ข้างลานย่าโม พบอาสาสมัครเป็นเยาวชนหญิง 2 คน ตั้งโต๊ะเชิญชวน มีป้ายข้อความ “จุดลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์” และ “บัตรออกเสียง” ต่อมา มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ได้มาขอความร่วมมือให้ยุติกิจกรรม เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตตามขั้นตอน แต่เยาวชนหญิงไม่ยินยอม จึงเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันและใช้กำลังรื้อถอนจุดทำกิจกรรม สร้างความแตกตื่นและตกใจให้กับประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้ท้าวสุรนารี
น.ส.วชิรญา หรือ ไนท์ อายุ 17 ปี ผู้เสียหายและเป็นสมาชิกกลุ่ม Koratmovement ระบุว่า ขณะดำเนินกิจกรรมได้มีชายฉกรรจ์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามารื้อโต๊ะ โดยยื้อแย่งฉุดกระชาก ทำให้ตนล้มลง ได้รับบาดเจ็บ มีรอยช้ำที่แขน ต้นขา ซี่โครง และเลือดออกในช่องปาก ส่วนเพื่อนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ขอยืนยันคำเดิมว่าเราไม่ได้ทำสิ่งใดผิด พื้นที่จัดกิจกรรมถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ประชาชนมีสิทธิและสามารถใช้แสดงออกทางความคิดได้ เจ้าหน้าที่อ้างว่าเมืองโคราชไม่สามารถจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เหมือนกับกรุงเทพฯ จึงมีความสงสัยว่าเมืองโคราชไม่เท่าเทียมกับจังหวัดอื่น หรือกรุงเทพฯอย่างไร เหตุใดจึงมีชุดความคิดด้านลบแล้วมาบอกว่าไม่สามารถจัดกิจกรรมได้
ทั้งนี้ตนจะเดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ขอใบรับรองแพทย์ รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากนั้นจะแจ้งความดำเนินร้องทุกข์กล่าวโทษ พร้อมรายงานเหตุการณ์ต่อคณะราษฎรและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนสภาจังหวัดนครราชสีมาต่อไป
ขณะที่ จ.ภูเก็ต กลุ่มภูเก็ตปลดแอก คณะราษฎรภูเก็ต จัดกิจกรรมบริเวณลานมังกร อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมลงมติตั้งแต่เวลา 15.30-18.30 น. โดยมี นายชูเวช เดชดิษฐ์รักษ์ สมาชิกวงสามัญชน พร้อมด้วย นายธีรยุทธ ศิริมาศ แกนนำกลุ่มภูเก็ตปลดแอก และสมาชิกกลุ่ม ยืนถือป้ายข้อความ “จุดลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ และสมาชิก” ถือกล่องกระดาษ “ลงมติประชาชน” เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมแสดงตัวลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ มีทั้งลงชื่อและหย่อนบัตรไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ โดยจะนำทุกเสียงนับรวมกันในวันที่ 22 กรกฎาคม และส่งต่อผลการนับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นายชูเวช กล่าวว่า เราจะไม่ชี้นำให้ไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ ทุกคนมีอิสระที่จะลงมติ อาจไม่มีผลทางกฎหมาย ที่สำคัญคือให้ทุกคนมีส่วนร่วมทางตรง โดยไม่ต้องฝากเสียงกับผู้แทนราษฎร เราพบว่ามีกรณีตั๋วช้าง การค้ามนุษย์ กรณีป่ารอยต่อ สุดท้ายแล้วพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ยึดธรรมาภิบาล หรือมีหลักการในการโหวตไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ แต่เป็นเรื่องการจัดการสมดุลทางอำนาจ และทรัพยากรเป็นหลัก
“วันนี้เราอยากมาฟังเสียงโดยตรงจากประชาชนโดย เลือกจังหวัดที่เป็นพื้นที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เช่น จ.ภูเก็ต เรารู้ว่าแนวโน้มคือประชาชนภูเก็ตอาจจะชอบประยุทธ์มากกว่า อยากฟังเสียงจริงๆ ว่าแม้แต่คนที่ชอบ หากผ่านไป 3 ปี หลังเลือกตั้งยังชอบอยู่มั้ย และเราไม่เลือกปฏิบัติด้วย สมมุติโหวตไว้วางใจก็ถูกนับเหมือนกัน ไม่ไว้วางใจก็ถูกนับเหมือนกัน โดยตั้งเป้ามีผู้ร่วมลงมติประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ที่ภูเก็ตประมาณ 100 รายชื่อ” นายชูเวชกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมนี้ตรงกับงานถนนคนเดินภูเก็ตหลาดใหญ่ ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานลงชื่อกัน จำนวน 124 คน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบจากหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
