รัฐมนตรีเยอรมันเสนอนำกฎหมายอิสลามมาใช้กับการบริหารกิจการศาสนาอิสลามในเยอรมัน

สื่อ Funke Media Group รายงานว่า นาย Jens Spahn รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสมาชิกพรรคคริสเตียนเดโมแครต ของนางเองเจล่า เมอร์เกล ได้กล่าวเรียกร้องให้มีการศึกษา และนำกฎหมายอิสลามเข้ามาใช้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกิจการบริหารองค์กรศาสนา ของชุมชนมุสลิมในเยอรมัน อาทิ การจดทะเบียนมัสยิดอย่างเป็นทางการ และส่งเสริมให้อิหม่ามบรรยายธรรมเป็นภาษาเยอรมัน 

Spahn ยังเรียกร้องให้มีการจัดทดสอบภาษาเยอรมันในกลุ่มอุละมะอฺอิสลามในเยอรมัน เนื่องจากการบรรยาย หรือสอนอิสลามในภาษาเยอรมันจะช่วยลดอคติต่อชาวมุสลิมได้ส่วนหนึ่ง การนำเข้าอิหม่ามที่สอนศาสนาด้วยภาษาอื่น จะทำให้ไม่เกิดการรวมตัวในสังคม มีความแปลกแยกจากรากฐานด้านภาษา โดยมีการเปรียบเทียบการบรรยายธรรมของศาสนาคริสต์ ที่แม้จะต่างนิกายแต่ทุกคนก็เข้าใจ ไม่เหมือนกับการบรรยายธรรมของอิสลามที่ใช้ภาษาอาหรับ หรือตุรกี และยังทำให้ทางการเยอรมันได้รับทราบในสิ่งที่พูดกันในมัสยิดด้วย

เขายังกล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีตัวแทนที่เป็นที่ยอมรับของชาวมุสลิมทั้งหมดในเยอรมัน และสมาคมอิสลามที่มีอยู่ในประเทศเป็นเพียงแต่ตัวแทนอิสลามกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นแต่เพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น

เพื่อให้การเสนอแนะมีผลเป็นรูปธรรม Spahn เรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรเงินเพื่อฝึกอบรมอิหม่าม ครูสอนศาสนา และที่ปรึกษาด้านศาสนา ซึ่งดีกว่าที่จะให้พวกเขารับเงินอุดหนุนจากตุรกี หรือซาอุดี้อาระเบีย และเขายังเสนอแนะให้มีการเก็บภาษีโบสถ์ หรือ church tax สำหรับมุสลิมในชุมชน เช่นเดียวกับที่เก็บกับชุมชนชาวคริสต์ด้วย

 ข้อเสนอของ Spahn ได้รับการแย้งอย่างทันควันจากสมาชิกพรรคกรีน Volker Beck โดยว่า ไม่จำเป็นต้องนำกฏหมายอิสลาม กฎหมายคริสต์ หรือกฎหมายพุทธมาใช้ในเยอรมัน เพราะปัจจุบันชุมชนศาสนาต่างๆ ได้จัการดูแลได้ด้วยตัวเอง แต่เขาเห็นด้วยกับการอบรมอิหม่ามที่เป็นชาวเยอรมัน แต่ก็ยังคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่ควรเป็นการบังคับ

ประเทศเยอรมัน มีประชากรมุสลิมประมาณ 4.7 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 5.7 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ มุสลิมจำนวน 4.7 ล้านคนในเยอรมัน เป็นชาวเยอรมันแท้ๆ เพียง 1.9 ล้านคน
cr:https://tangnamnews.wordpress.com/2017/04/07/