ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ นักธุรกิจชื่อดัง วางรากฐานโรงงานแปรรูปอาหารทะเลPFF ที่พุมเรียง ไชยา มีอิหม่ามสุราษฎร์ฯเกือบ 40 มัสยิดร่วมพิธี ขอดุอาว์เป็นบารอกัตให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ระบุ ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานอิสลามประจำจังหวัด การวางรากฐานทางธุรกิจเพื่อช่วยงานด้านศาสนา
วันที่ 23 พฤษภาคม ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ ประธานบริษัท พุมเรียง เฟรชฟู๊ด จำกัด(PFF) ได้เป็นประธานในพิธีวางรากฐานโรงงานPFF ตั้งอยู่ เลขที่9437 ตำบลพุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี โดยบรรดาอิหม่ามมัสยิดในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเกือบ 40 คน ชาวบ้านพุมเรียงเข้าร่วม ประมาณ 300 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
ตำบลพุมเรียง เป็นหมู่บ้านมุสลิมริมฝั่งทะเล ที่อยู่กันมายาวนานกว่า 300 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่อดีตชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง โดยผลิตภัณฑ์ประมงที่มีชื่อเสียง อาทิ ปูทะเล ที่นับว่า เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการแปรรูป
‘ผมเกิดที่พุมเรียง พ่อเป็นชาวประมง ตอนอายุ 13 ปี ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ตอนอยู่ป.4 ผมจำได้ว่า แอบขึ้นไปบนเรือที่ออกไปหาปลา เรืออวนรุน อินทรีสมุทร ปากอ่าวพุมเรียง เมื่อก่อนสวยมาก มีความสุขมากที่ได้เห็นท้องทะเลที่สวยมาก จะเห็นว่า ผมชอบตกปลา ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นทะเลแล้วมีความสุข ทำให้มีความผูกพันกับทะเลและพุมเรียง เมื่อมีโอกาสจึงกลับมา ทำงานช่วยเหลือชาวพุมเรียงเท่าที่พอจะทำได้ และการเปิดโรงงานแห่งนี้ก็เพื่อชาวพุมเรียงและพี่น้องจังหวัดสุราษฎร์ธานี’ ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ์ กล่าวในระหว่างพิธีวางรากฐานโรงงาน
ดร.ธงชัย ปิติเศรษฐ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ธงชัย คอนซัลแท้นส์ กรุ๊ป จำกัด (TCG Group) เป็นที่ปรึกษาด้านภาษี การวางแผนการเงิรและการลงทุน ดำเนินการมากว่า 20 ปี ประสบความสำเร็จกิจการเติบโตอย่างมั่นคง จนได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
‘เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง กลับมาบ้านเกิด มีญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตกลับมาทำบุญ รู้สึกว่า มีความห่างเหินกัน คิดว่า ต้องมีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกัน ประกอบกับ ม๊ะ(แม่)ป๊ะ(พ่อ) เสียชีวิต จึงตั้งใจว่าจะทำกองทุนซักกองทุน เพื่อได้มีโอกาสทำบุญร่วมกับชุมชน เพราะส่วนตัวไม่มีโอกาสมาร่วม จึงจัดตั้งเป็นกองทุนไรน่านอาบีดีน ปิติเศรษฐ เพื่อช่วยเหลือในกิจกรรมศาสนา ซึ่งกิจการก็มีลูกค้ามากมาย ทำให้รู้สึกว่า จากการที่เราทำบุญอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ได้เพิ่มริสกีให้มากมาย แต่มีคำถามว่า เราจะเอาเงินจากไหนมาช่วยตลอดเวลา ก็ให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มาช่วยสนับสนุน ต่อมาก็มีชมรมพุมเรียงรวมใจ ส่งเสริมชุมชนด้านคนพิการ คนเจ็บไข้ก็ได้เพื่อนที่มีบริษัทขนาดใหญ่ บริจาคปีละ 8แสนบาท เป็นแนวคิดที่ขอริสกีจากอัลเลาะฮ์ เราต้องให้ก่อน’ ดร.ธงชัย กล่าว
ดร.ธงชัย กล่าวว่า ต่อมาแซะยิบ (ตายิบ และขวัญ อิหม่ามประจำมัสยิดฮิดายะห์บ้านพุมเรียง) ได้ชวนไปทำฮัจย์ กลับมาเห็นว่ามัสยิดทรุดโทรม จึงคิดว่า ถึงเวลาที่ควรจะสร้างใหม่ และด้วยเจตนาที่ดีทำให้การสร้างมัสยิดสำเร็จ ด้วยที่มีพรรคพวกมาก จึงมีคนมาช่วยมาก เจ้าของผลิตภัณฑ์กระจกรายใหญ่ของประเทศก็ให้กระจกมาก่อน มัสยิดจึงสวยงาม ซึ่งถ้าเราเหนียตดี อัลเลาะฮ์ก็จะช่วยให้การงานนั้นสำเร็จ ซึ่งตอนจัดงานสร้างมัสยิด นายหัฏฐะพล มลคาน เจ้าของผลิตภัณฑ์ ทะเลศุกร์ ได้ช่วยเหลือเต็มที่ ต่อมาได้ชักชวนมาสร้างโรงงาน
‘สร้างมัสยิดเสร็จ ก็มีคนมาชวนให้ช่วยคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ผมก็บอกว่า ไม่ได้มีความรู้ด้านศาสนามาก ไม่ได้เรียนศาสนามา รู้แค่ปฏิบัติอ่านกุรอ่านได้ ละหมาด ออกซากาซ ถือศีลอด ไปฮัจย์ ให้มาช่วยก็บอกว่า ต้องช่วยครูสอนศาสนา เพราะสมัยผมเด็กๆ แทบไม่มีครูสอนศาสนา และกุรอ่านพี่ๆน้องๆ ก็แทบไม่ได้เรียนกุรอ่าน ก็ขออย่างเดียวช่วยครูสอนศาสนา อย่างน้อยเดือนละ 6,000 บาท แต่เมื่อคณะกรรมการอิสลามฯ ไม่ทำ ก็เลยจัดตั้งมูลนิธิอัล-อามานะห์ เพื่อการศึกษาและสังคมสุราษฎร์ธานี โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่มาช่วยจัดตั้ง ช่วยครูสอนศาสนาตอนนี้ก็ได้ช่วยครูสอนศาสนาของจ.สุราษฎร์ฯ เดือนละ 2,000 บาท มีผู้จัดการสถาบันการเงินอิสลามบ้านพุมเรียงมาช่วยบริหารจัดการ มีมัสยิดมาร่วมถือหุ้น ผลกำไรก็นำไปช่วยเหลือการศึกษาเยาวชน’ ดร.ธงชัย กล่าว
‘มาที่เรื่องการสร้างโรงงาน ผมก็มีข้อแม้ว่า จะต้องไม่ไปแข่งกับที่มีอยู่แล้ว อย่างวิยะเครป ปูคอนโด ที่เป็นของพี่น้องมุสลิมเรา ที่เหมือนเป็นญาติ ซึ่งผมดีใจมากในความสำเร็จ จะไปแข่งกับเขาไม่ได้ ปูคอนโด ห้ามทำนะ คานก็บอกว่า จะทำลูกชิ้นปู จ้อปู แหนมปู ยอปู ผมก็ให้ทำความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ทำใมว่า 5 ปีจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท ผมก็บอกว่า ขอแค่ปีละ 100 ล้านบาทก็พอ ซึ่งการสร้างโรงงานชุมชนก็ได้มีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าเทศบาล แต่ผมเหนียตต่อว่า ทุกครั้งที่ผมทำบุญก็จะมีธุรกิจมาคู่กับการทำบุญ (นำผลกำไรของธุรกิจมาทำบุญ) โดยซากาตจากผลกำไรของโรงงาน จะเข้าสู่มูลนิธิอัลอมานะห์ฯ ที่ท่านอยากเห็นเงินเดือนครูสอนศาสนาไม่ต่ำกว่า 6,000 บาท ก็ขอให้อิหม่ามช่วยกันขอดุอาว์ ให้โรงงานเจริยก้าวหน้า’ ดร.ธงชัย กล่าว
ดร.ธงชัย กล่าวว่า การบริหาร พุมเรียง เฟรชฟู๊ด จำกัด จะมี นายหัฏฐะพล มลคาน และน.ส.ปภาดา ปิติเศรษฐ ลูกสาวซึ่งจบการตลาดมาจากประเทศอังกฤษ และมีผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง คือ คุณสิงห์ พฤกษเศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชุมชนเภสัชกรรม จำกัด(มหาชน) เป็นเพื่อนกับเจ้าของห้างซุปเปอร์ชีป ที่มีหลายสาขา และเป็นเพื่อนสนิทของตนด้วย ก็จะนำผลิตภัณฑ์เข้าซุปเปอร์ชีป ส่วนที่ดินแปลงนี้ ตนเป็นคนซื้อ แต่มีช่วงที่มีปัญหา จึงขอให้พี่ชายประทีป พัฒนอมร ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ช่วยถือไว้ แล้ว ตนจะซื้อคืน ซึ่งเมื่อจะซื้อคืนมาทำโรงงานก็ได้ขายคืนมา ก็ชวนมาเป็นผู้ถือหุ้น เพื่อที่อาร์แอนด์บี ก็มาถือหุ้น
‘กำไรจากโรงงานก็จะออกเป็นซากาต เข้าสู่มูลนิธิอัลอมานะห์ฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือครูสอนศาสนา ที่โต๊ะอิหม่าม ได้ลงชื่อสนับสนุนผมเป็นประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด วันนี้ผมได้มาวางรากฐานทางธุรกิจ ถ้าเราไม่มีธุรกิจที่จะมาสนัลสนุนกิจกรรมที่เราจะทำ ก็จะเป็นวัฒนธรรมเดิมๆ การวางรากฐานทางธุรกิจก็จะมาช่วยงานที่เราทำ’ ดร.ธงชัย กล่าวในที่สุด
หลังจากนั้น บรรดาอิหม่ามที่มาร่วมงานประมาณ 40 คน ได้ขึ้นบนเวทีเพื่อขอดุอาว์และซอลาหวาดนบี ขอให้กิจการของPFF ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองเพื่อมาช่วยเหลือสังคมต่อไป และบรรดาอิหม่ามและผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน ก็ได้ร่วมกันเป็นสุกขีพยานในการลงเสาเข็มต้นแรก เพื่อเริ่มก่อสร้างโรงงาน ของPFF
ทั้งนี้ โรงงานพุมเรียง เฟรชฟู๊ด ก่อสร้างบนพื้นที่ 14 ไร่ที่ตำบลพุมเรียง อ.ไชยา โดยธนาคารออมสินได้อนุมัต้เงินกู้สำหรับการก่อสร้างและบริหารกิจการ โดยการก่อสร้างโรงงานและเครื่องจักรใช้งบประมาร 30 ล้านบาท ในเบื้องต้นจะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปู อาทิ ลูกชิ้นปู จ้อปู แหนมปู ยอปู ประมาณ 2,000 แพค และขยายได้ถึง 10,000 แพคในลำดับต่อไป
