“ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” รองหน.พรรคพท. ลั่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีคนติดคุกปมท่อส่งน้ำอีอีซี โยนชื่อ“เสี่ยอ๊อด” คนสนิท รมช.คลัง เอี่ยว พร้อมเตรียมยื่น นายกฯ ให้ล้ม ประมูล
วันที่ 18 พ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และ น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย ร่วมกันแถลงกรณีความไม่โปร่งใสในการประมูลท่อส่งน้ำสายหลักใน EEC มูลค่า 25,000 ล้านบาท โดย นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ท่องส่งน้ำสายหลักจะมีอยู่ด้วยกัน 3 เส้น 1.โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย 2.โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และ 3.ท่อส่งน้ำจากหนองค้อถึงแหลมฉบังระยะที่ 2 โดยเส้นนี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือ และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และะใช้น้ำมากที่สุด เรื่องนี้ กรมธนารักษ์จะเซ็นต์สัญญากับ บริษัทวงษ์สยาม จำกัด แต่ตนและคณะได้ยื่นหนังสือคัดค้านต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี เพราะเป็นการปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ซึ่งยังยืนยันว่าเป็นอย่างนั้น และพรรคพท.มีหลักฐานเป็นเล่มๆที่จะนำมาแฉ และพร้อมล้มรัฐบาลด้วยเรื่องนี้ทั้งนี้ หลังจากนายกฯสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้มีการตั้งนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยจะสรุปผลการตรวจสอบในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งจะฟอกขาวให้ว่าไม่มีใครผิด ตนและพรรคเพื่อไทยบอกเลยว่า คุณจะสรุปว่าไม่ผิดรับรองติดคุกแน่ และวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ตนจะยื่นเอกสารหลักฐานที่มีให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานที่ราชพัสดุโดยตำแหน่ง
ถ้าทั้ง 2 ท่านไม่ดำเนินการอะไรจะผิดมาตรา 157 ตัวอย่างแรก คือ กรมธนารักษ์แจงว่า การที่ไม่ทำอีบิดดิ้งเพราะไปจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษาฯ ใช้งบกว่า 6.5 ล้านบาท ผู้ว่าจ้างคือ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ขณะนั้น ซึ่งตามสัญญาระบุว่าห้ามจ้างช่วงต่อ แต่ ปรากฎว่า หนังสือรายงานทั้งหมดของโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีนี้ มหาวิมหาวิทยาลัยเกษตรฯไม่ได้ทำเองแต่ไปจ้างให้ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ ระเบียบกระทรวงการคลังสำหรับที่ราชพัสดุว่าด้วยการคัดเลือกเอกชน เพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกินกว่า 500 ล้านบาท ระบุให้ใช้วิธีประมูล ถ้าใช้วิธีการประมูลแล้วไม่ได้ ถึงจะมาใช้วิธีการคัดเลือก แต่เงื่อนไขคือจะต้องมีบริษัทเข้ามาเสนออย่างน้อย 3 ราย
“การอภิปรายครั้งนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมมาก พล.อ.ประยุทธ์ นายอาคม และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง อย่าหนีไปไหนก็แล้วกัน ผมจะแฉให้ดู เพราะคุณละเว้น ไม่เคยทำอะไรเลย”นายยุทธพงศ์ กล่าว และย้ำว่า การประมูลเที่ยวนี้มีพิรุธ ประมูลครั้งแรกเมื่อ 26 สิงหาคม 64 บริษัท อีสท์วอเตอร์ ชนะการประมูลไปแล้ว จากนั้นมีการทำหนังสือขอยกเลิกการประกวดราคาครั้งที่ 1 บริษัทอีสท์วอเตอร์ฯ จึงฟ้องศาลปกครองซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี อธิบดีกรมธารักษ์ ฐานะประธานคัดเลือกต้องรับผิดชอบที่ไปยกเลิกการประมูล เพราะคณะกรรมการคัดเลือกมีเพียงนายยุทธนา หยิมการุณ คนเดียวที่ไม่เห็นด้วย และสั่งคว่ำการประมูล
โดยการไปชี้แจงกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการไม่เห็นด้วยและลาออกซึ่งไม่จริง ขอท้าให้เอาหลักฐานมาโชว์ และในการประมูลครั้งที่ 2 ยื่นซองวันที่ 29 กันยายน 64 ก่อนที่นายยุทธนา จะเกษียณราชการวันที่ 30 กันยายน 64 มีการเปลี่ยนกรรมการใหม่ยกชุด มีเพียงนายยุทธนา ยังเป็นประธานอยู่ และให้ บริษัทวงษ์สยามชนะ นี่เป็นข้อพิรุธ นอกจากนี้ มีตัวละครชื่อ “เสี่ยอ๊อด” ซึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รู้จักดีมาขู่คณะกรรมการว่า บริษัทวงษ์สยามเท่านั้นที่ต้องชนะ
“ดังนั้นผมเตรียมจะแฉในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเสี่ยอ๊อดเป็นใคร งานนี้ต้องเอาติดคุกติดตะรางแน่ พรรคเพื่อไทยประกาศพร้อมล้มรัฐบาล เอกสารหลักฐานมีหมด เรื่องนี้ได้เสียแน่ ไล่ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ นายอาคม และนายสันติ อภิปรายไม่วางใจเที่ยวนี้คุณโดนแน่ มั่นใจว่าข้อมูที่มีล้มพวกคุณได้แน่นอน” นายยุทธพงศ์ กล่าว