อนุบาลปัตตานียื้อต่อ ยังห้ามเด็กสวมฮิญาบเรียน อ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

อนุบาลปัตตานียังดื้อแพ่ง อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองยะลา ยังห้ามเด็กนักเรียนสวมฮิญาบเรียน เว้น20คนที่ฟ้องศาลปกครอง ระบุจนกว่าศาลจะมีคำสั่งถึงที่ใุด

วันที่ 17 พฤษภาคม วันเปิดเทอมวันแรก ผู้ปกครองมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานีต้องผิดหวัง เมื่อทางโรงเรียนมีคำสั่งห้ามนักเรียนสวมฮิญาบ แม้ศาลปกครองจังหวัดยะลาจะมีคำสั่งให้ยกเลิกระเบียนบที่ขัดต่อรัฐธรรมนูก็ตาม โดยระบุว่าเรื่องอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด อนุญาตให้นักเรียนเพียง 20 คน ที่มีชื่อฟ้องร้องต่อศาลปกครองเท่านั้น

ประกาศโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ลงวันที่ 15 พฤษภาคม ลงนามโดยนายธำรงศักดิ์ ตันนิยม ผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุว่า ตามที่ศาลปกครองยะลามีคำสพิพากษาให้เพิกถอนระเบียบโรงเรียนอนุบาลปัตตานี วัดนพวงศารามว่าด้สนการควบคุมและดุแลความประพฤติการลงโทษ และการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียน 2561 หมวดที่ 3 ว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียนในส่วนที่กำหนดลักษณะเครื่องแบบและการแต่งกายของนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามให้สามารถแต่งเครื่องแบบและแต่งกายตามข้อกำหนดของนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามให้สามารถแต่งเครื่องแบบและแต่งกายตามข้อกำหนดของอิสลามได้ สำหรับคำสั่งศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิจาณา ให้มีผลต่อไปตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นที่ฐาน โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ได้ประชุมเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ได้มีมติให้อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองจังหวัดยะลา และด้วยคดีนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลปกครองสูงสุด คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ หรือมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยกรณีผู้ฟ้องทั้ง 20 ราย ศาลปกครองยะลาได้มีคำสั่งให้มีผลต่อไป มีเพียงผู้ฟ้อง 20 รายเท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครอง มิได้รวมถึงนักเรียนรายอื่นที่จะสามรถแต่งกายได้ตามหลักศาสนาอิสลามได้ ขอให้ผู้ปกครองที่ประสงค์จะให้บุตรหลานแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามจนกว่าคดีจะถึงที่สุด จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งหรือไม่รับอุทธรณ์คำสั่ง

หลังรับทราบหนังสือ ทำให้ผู้ปกครองนักเรียนมุสลิมผิดหวังไปตามๆกัน โดยเห็นว่า เมื่อศาลปกครองยะลาได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของโรงเรียนที่ออกมาขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้วทางโรงเรียนก็ไม่น่าจะยื้อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งต่อไป

สำหรับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลปัตตานี มีนายบุญสม ทองศรีพราย เป็นประธานคณะกรรมการ