ชาวสวนยางเฮ ราคายางพุ่ง64บ. “นิพนธ์” ลั่นจะดูแลเกษตรกรทุกกลุ่มเท่าเทียม

ชาวสวนยางสงขลา เฮ ราคายาง 64 บาท ขอ ปชป.ทำต่อเนื่องนโยบายประกันรายได้ ขณะ” นิพนธ์ บุญญามณี” ยืนยัน จะดูแลพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่ม และ มหาดไทยเดินหน้าแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน

วันที่ 13 พ.ค.65 เวลา 10.00 น.นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมจุดรับซื้อน้ำยางสดในพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เพื่อสอบถามเรื่องราคาน้ำยางสด ปัญหาจากการรับซื้อ การขนส่ง รวมถึงผลกระทบจากการที่ต้นยางพาราในพื้นที่ภาคใต้เข้าสู่ฤดูกาลผลัดใบ

โดยพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสดในตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ให้ข้อมูลว่า จุดที่ตนรับซื้อ จะมีชาวสวนยางในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงนำน้ำยางสดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์มาจำหน่าย โดยจะรับซื้อตั้งช่วงเช้าจนถึงเวลาประมาณ 11.00 น.ของทุกวัน และ จะใช้ราคาอ้างอิงจากสหกรณ์สวนยางอำเภอจะนะ และรวบรวมน้ำยางสดไปจำหน่ายยังสหกรณ์ฯอีกครั้งหนึ่ง และเช้าวันนี้ราคาน้ำยางสดรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 64 บาท แต่ช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลัดใบของต้นยางพาราทำให้ไม่สามารถกรีดยางได้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำยางสดมีน้อยด้านจุดรับซื้อน้ำยางในพื้นที่อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ผู้ประกอบการรับซื้อน้ำยางเปิดเผยต่อเช่นเดียวกันว่า วันนี้ราคาน้ำยางสดปริมาณความเข้มข้น(30%) รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 63 บาท เฉลี่ยจะรับซื้อน้ำยางสดจากชาวสวนในพื้นที่ได้ประมาณวันละ 1,000 -1,500 กิโลกรัม ซึ่งเป็นช่วงต้นยางพาราผลัดใบทำให้ปริมาณน้ำยางในพื้นที่มีน้อย แต่ราคายางพาราในปัจจุบันนี้ก็ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น มีรายได้หมุนเวียนนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และได้ใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนบุตรได้ทันในช่วงเปิดภาคเรียนนายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่าราคาน้ำยางสดพาราเฉลี่ยในช่วงเดือนพฤษภาคมตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ค.65 ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรนั้นอยู่ที่ กิโลกรัมละ 60 – 62 บาท ซึ่งจากการสอบถามพี่น้องชาวสวนยาง ต่างพึงพอใจในราคาดังกล่าวและต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำเรื่องราคายางพารา ปาล์มน้ำมันให้คงราคาเช่นปัจจุบันนี้ต่อไป ซึ่งสูงกว่าราคาประกันที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรทั้ง 5 ชนิดประกอบด้วย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าว ล้วนแต่ราคาดีกว่าช่วงที่ผ่านมาและสูงกว่าราคาประกันทุกชนิด นอกจากจะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังไม่เป็นภาระงบประมาณของรัฐบาลอีกด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการในเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรให้สูงขึ้นต่อเนื่อง และจะดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเพื่อให้ครัวเรือนเกษตรกรในประเทศไทยกว่า 14 ล้านครัวเรือนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดได้อีกทางหนึ่ง

“ในส่วนกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีเป้าหมายคือ การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือน โดยใช้ข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) หรือ TPMAP เป็นฐานข้อมูลในการขับเคลื่อนดังกล่าว ซึ่งการที่เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากราคายางพาราที่สูงขึ้น รวมทั้งเกษตรกรในรายครัวเรือนทั้งประเทศ ก็มีส่วนในการการยกระดับฐานรายได้ภาคครัวเรือนให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการขจัดความยากจนได้อย่างยั่งยืน” นายนิพนธ์กล่าว