สภามหาวิทยาลัย มร.ประชุมคัดเลือกตั้งแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยคนใหม่ พร้อมกับถกเถียงกันหลายประเด็น ปม กรรมการบางราย ก้าวก่ายหน้าที่ฝ่ายบริหาร โดยหลังการประชุมมี อาจารย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้สอบสวนการทำหน้าที่ของปธ.ส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย
วันที่ 9 พ.ค.2565 เวลา 13.00 น. การประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีนายสมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาแต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงคนใหม่ หลังจาก นายชีพ จุลมนต์ อดีตประธานศาลฎีกา ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถแต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยคนใหม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเสียงในสภามหาวิทยาลัย ที่ก้ำกึ่งกันมาก ประกอบกับมีการแก้ไขระเบียบในการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย จากเดิมซึ่งอธิการบดี มีอำนาจเสนอชื่อเพียงคนเดียว แต่มีการแก้ไขให้บุคคลที่เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย มีสิทธิ์เสนอชื่อได้ด้วย ดังนั้นเมื่อเสียงก้ำกึ่งกัน การโหวตเสียงบางครั้งเสียงเท่ากัน เช่น 18:18 แต่หลังจากนี้ไปเสียงของฝ่ายหนึ่งอาจจะชนะเด็ดขาด เนื่องจากเพิ่งมีการเลือกตั้งประธานสภาคณาจารย์ ที่เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง ถ้าประธานสภาคณาจารย์ยกมือให้ข้างไหนข้างนั้นจะเป็นฝ่ายชนะทันที
สำหรับปัญหาในการบริหารของ ดร.สืบพงศ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีคนปัจุบัน มีมากมาย เช่น การเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งรองอธิการบดี เพื่อไปบริหารวิทยบริการในต่างจังหวัดไม่สามารถทำให้เนื่องจากสภาไม่อนุมัติ โดยสภามหาวิทยาลัยเสนอให้ฝ่ายบริหารปรับโครงสร้างของมหาวิทยาลัย เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยให้เหตุผลว่า รายได้มหาวิทยาลัยลดลง นักศึกษาน้อยลง มหาวิทยาลัย จึงควรปรับโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่การเสนอแต่งตั้งรองอธิการบดี เพื่อไปบริหารวิทยบริการ เป็นการเสนอตามกรอบของกฎหมาย และระเบียบมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน
โดยการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงสิ้นสุดลงในเวลา 16.30 น. ซึ่งมีการถกเถียงกันหลายประเด็น อันเป็นข้อขัดแย้งในการบริหารมหาวิทยาลัย ซึ่งบางเรื่องสภามหาวิทยาลัย ทำหน้าที่เหมือนฝ่ายบริหาร เช่น การตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ,สอบวินัยข้าราชการในมหาวิทยาลัย หรือ อาจารย์ที่สอนในคณะต่างๆ ซึ่งเป็นการก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร
ทั้งนี้หลังการประชุมเสร็จสิ้นลง มีอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ยื่นหนังสือถึง นายสมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในฐานะประธานการประชุม เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบสวนการทำหน้าที่ของประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย โดยอ้างว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทำหน้าที่ เช่น ไม่รายงานข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกิจการของมหาวิทยาลัย
“ข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 กำหนดหน้าที่กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยไว้ 8 ข้อ โดยข้อ 5 กำหนดว่า คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่มหาวิทยาลัยและสนับสนุนการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย ประกอบข้อ 8 ประธานกรรมการและกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ 8.3 สามารถส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยให้พัฒนาก้าวหน้าทางวิชาการและศิลปวัฒนธรรม”
ด้านนายสมบูรณ์ สุขสำราญ กล่าวหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า หลังจากนี้จะสั่งให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภามหาวิทยาลัย เพื่อให้กรรมการร่วมกันพิจารณา พร้อมได้ส่งหนังสือร้องเรียนให้ฝ่ายเลขาฯบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในการประชุมในครั้งต่อไปในวันที่ 23 พ.ค.2565
